นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข. และธนาคารโลกได้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน ในการจัดทำโครงการความร่วมมือทางเทคนิคด้านการบริหารเงินทุนเพื่อความยั่งยืน ระหว่างกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และธนาคารโลก (Technical Co-Operation on Sustainable Investment between Government Pension Fund and World Bank) สำหรับปี 63 โดยโครงการนี้ ถือเป็นความร่วมมือแรกที่ธนาคารโลกให้ความร่วมมือกับกองทุนบำนาญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
วัตถุประสงค์ของความร่วมมือดังกล่าว เพื่อยกระดับกระบวนการลงทุนของ กบข.ที่ได้มีการนำปัจจัยสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social & Governance: ESG) มาผสานในกระบวนการลงทุนมาตั้งแต่ปี 2562 ให้มีมาตรฐานทัดเทียมกับกองทุนบำนาญระดับโลก และสอดคล้องแนวปฏิบัติเพื่อการลงทุนอย่างรับผิดชอบของ PRI ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดตั้งโดยสหประชาชาติเพื่อจัดทำและส่งเสริมมาตรฐานดังกล่าว (The United Nations-supported Principles for Responsible Investment : PRI) และ กบข. ได้ร่วมเป็นสมาชิกในปี 2562
"กบข. และธนาคารโลก มีเป้าหมายร่วมกันที่จะให้ กบข.เป็นต้นแบบ "กรณีศึกษาต้นแบบ" (Showcase) ของกองทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการบริหารจัดการเงินลงทุน โดยใช้ปัจจัยด้าน ESG อย่างเต็มรูปแบบ" นายวิทัย กล่าว
สำหรับรายละเอียดลักษณะความร่วมมือนั้น ประกอบด้วย 4 ประการ คือ 1. การจัดทำแผนกลยุทธ์การลงทุนที่คำนึงถึงปัจจัย ESG 2. การนำปัจจัย ESG มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการบริหารจัดการลงทุนของ กบข. รวมถึงการพัฒนาระบบคะแนนด้านความยั่งยืน (ESG Scoring System) เพื่อใช้ในการประเมินมูลค่าตราสารทุนและตราสารหนี้ในการลงทุน 3. การจัดทำแนวทางนำปัจจัย ESG มาเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการสรรหาผู้จัดการกองทุนภายนอก และ 4. การจัดทำกรอบการกำกับ ติดตาม และจัดทำรายงานผลการดำเนินกลยุทธ์การลงทุนที่คำนึงถึงปัจจัย ESG มาใช้ของ กบข.
นายวิทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การร่วมมือกับธนาคารโลกในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญและสอดคล้องกับเป้าหมายเป็นผู้นำและผู้ริเริ่มนวัตกรรมด้านการลงทุนโดยคำนึงปัจจัย ESG (Leader in ESG Investing and Initiatives) ของ กบข. โดยในปีที่ผ่านมา กบข.ได้ริเริ่มหลากหลายแผนงานเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายดังกล่าว อาทิ
1. จัดตั้ง ESG-focused Portfolio ที่มีการลงทุนเฉพาะหุ้นไทยที่คำนึงปัจจัย ESG และเป็นการนำ THSI Index ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมาใช้เป็นรายแรกของประเทศไทย
2. ริเริ่มโครงการลงนามประกาศเจตนารมณ์แนวปฏิบัติ "การระงับลงทุน" (Negative List Guideline) กับบริษัทจดทะเบียนที่มีประเด็นปัญหา ESG มีนักลงทุนสถาบันร่วมลงนาม 32 ราย
3. ปรับกระบวนการลงทุนของ กบข. โดยนำปัจจัยด้าน ESG เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนในทุกขั้นตอน (ESG Integration into Investment Process)
4. นำปัจจัย ESG มาเป็นหนึ่งในเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกผู้จัดการกองทุนภายนอก
5. เป็นผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทย (TRBN) เป็นต้น
ด้านนางเบอร์กิท ฮานสล์ ผู้จัดการธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารโลกหวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้ กบข.สามารถนำวิธีการทางการเงินเพื่อความยั่งยืนในระดับสากลมาปรับใช้ในกระบวนการลงทุนและจัดหาเครื่องมือ เพื่อที่จะนำทางและสร้างความเป็นเลิศในตลาดการเงินภายในประเทศของประเทศไทยได้