นายฮิโรกิ ทสึดะ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังญี่ปุ่น กล่าวว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นเผชิญความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ช่วงขาลงมากขึ้นจากวิกฤตในตลาดซับไพรม์ของสหรัฐและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งภาวะดังกล่าวทำให้รัฐบาลต้องจับตาความเคลื่อนไหวในตลาดปริวรรตเงินตราและตลาดหุ้นอย่างใกล้ชิดแบบวันต่อวัน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ถ้อยแถลงของรมช.คลังญี่ปุ่นในการแถลงข่าวครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ตลาดหุ้นโตเกียวทรุดตัวลงอย่างหนัก ขณะที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยในวันนี้ดัชนีนิกเกอิดิ่งลงเกือบ 4.5% ปิดที่ระดับต่ำกว่า 13,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.เป็นตันมา ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงไปแตะที่ 102 เยนต่อดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปี 2548 จากความวิตกกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม นายทสึดะปฎิเสธที่จะแสดงความเห็นถึงความเป็นไปได้ที่ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงตลาดเงินเพื่อป้องกันการแข็งค่าขึ้นของเงินเยน
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนม.ค.ปี 2546 จนถึงเดือนมี.ค.ปี2547 ญี่ปุ่นได้ใช้เงินไปกว่า 35 ล้านล้านเยนเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าขึ้นอย่างรุนแรงของเงินเยนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม นายทสึดะกล่าวว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังค่อยๆฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากอัตราการบริโภคภาคเอกชนที่แข็งแกร่งประกอบกับการลงทุนในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มกระเตื้องขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--