ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ศก.ซบถ่วงดอลล์สหรัฐอ่อน ขณะดอลล์นิวซีแลนด์ยังแข็ง

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างที่ร่วงลงหนักสุดในรอบ 14 ปี ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.5266 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.5238 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 1.9847 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9883 ดอลลาร์/ปอนด์
          นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.0424 ฟรังซ์สวิส/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0433 ฟรังซ์/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลงแตะระดับ 103.18 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 103.96 เยน/ดอลลาร์
          ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 0.8071 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7986 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ 
          สถาบันวิจัยเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์คาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยที่ยังเคลื่อนไหวในระดับสูงจะทำให้ดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งแกร่งต่อเนื่องตลอดปี 2551 โดยคาดว่าแนวรับจะอยู่ที่ 0.7950 ดอลลาร์สหรัฐ และแนวต้านจะตรึงอยู่ที่ 0.81 ดอลลาร์สหรัฐ
          ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนม.ค.ของสหรัฐ ปรับตัวลง 1.7% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐชะลอตัวลงอย่างมาก
          นอกจากนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมการผลิตของโรงงานทั่วประเทศ ลดลงสู่ระดับ 48.3 จุดในเดือนก.พ. จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 50.7 จุด โดยดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการหดตัว ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี ISM ภาคการผลิตจะอยู่ที่ 48.0 จุดในเดือนก.พ.
          "ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังคงสนับสนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมวันที่ 18 มี.ค.นี้" เจมส์ ฮิวจ์ นักวิเคราะห์จากซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์
          ยาซูโฮะ ฟูคูดะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นกล่าวว่า "ตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศเคลื่อนไหวอย่างไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน การที่ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงต่อเนื่องและรุนแรงเกินไปทำให้ยากที่จะประเมินสถานการณ์ตามปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นจะจับตาดูเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด"