ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.23 กลับมารอปัจจัยความคืบหน้าการเจรจาการค้า-Brexit หลังกนง.มีมติคงดอกเบี้ยตามคาด

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 18, 2019 17:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 30.23 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 30.22/26 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 30.22-30.27 บาท/ดอลลาร์

"คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.25% ตามคาด และมีมุมมอง ต่อเศรษฐกิจภายนอกในเชิงบวกว่ามีเสถียรภาพมากขึ้น...ขณะที่หลังจากนี้ตลาดยังรอดูปัจจัยใหม่ๆ โดยเฉพาะความคืบหน้าเกี่ยวกับการ เจรจาการค้าและ Brexit" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันพรุ่งนี้ระหว่าง 30.15-30.30 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.43 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 109.50 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1132 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1140 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,563.74 จุด เพิ่มขึ้น 15.09 จุด, +0.97% มูลค่าการซื้อขาย 50,326.55 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,455.10 ลบ.(SET+MAI)
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายของปี มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คง
อัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.25% เนื่องจากคณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าประมาณการเดิม
และต่ำกว่าระดับศักยภาพ จากการส่งออกที่ลดลง ซึ่งส่งผลไปสู่การจ้างงานและอุปสงค์ในประเทศ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มต่ำกว่า
ขอบล่างของกรอบเป้าหมายเดิม ภาวะการเงินโดยรวมยังผ่อนคลาย ซึ่งเป็นผลจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งในช่วงที่ผ่านมา
  • เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าระดับศักยภาพ
และต่ำกว่าที่ประมาณการไว้เดิม จากการส่งออกสินค้าที่ผ่านมาหดตัวมากกว่าที่ประเมินไว้ และมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาดเป็นสำคัญ
โดยในปีนี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 2.5% จากเดิมที่คาดไว้ 2.8% ขณะที่ในปี 63 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 2.8% จาก
เดิมคาด 3.3%
  • ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน
พฤศจิกายน 2562 อยู่ที่ระดับ 92.3 ปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 91.2 ในเดือนตุลาคม 2562 โดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 6
เดือน นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดทิศทางภาวะเศรษฐกิจการเกษตร ปี 2562 จะขยายตัวอยู่ในช่วง 2.0-
3.0% จากปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 0.5%
  • เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอ
ไอ) เห็นชอบให้การส่งเสริมโครงการขนาดใหญ่ 4 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 30,170 ล้านบาท
  • กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) กล่าวว่า ธนาคารยังอยู่ระหว่างการจัดทำแผนดำเนินงานในปี 63 เบื้อง
ต้นตั้งเป้าสินเชื่อรวมในปีหน้าเติบโต 2.7-3% ใกล้เคียงกับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (GDP) ที่คาดการณ์ไว้ที่
2.8-3% โดยถือว่าอัตราการเติบโตของสินเชื่อในปีหน้าจะสูงขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตได้แค่ราว 1-2%
  • นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวปาฐกถาพิเศษ "วิสัยทัศน์ประเทศไทย 2020" ในงาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
2020 ว่า ในปี 2563 ไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายอีกหลายประการ อาทิ ความผันผวนของระบบเศรษฐกิจและการเงินโลกและความ
เสี่ยงที่เกิดจากภัยพิบัติและภัยธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย พร้อมตั้งเป้าทำให้อัตราการขยายตัว
ทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยขยายตัวให้ได้ 5%
  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของมูดี้ส์ อนาไลติกส์เตือนว่า หนี้สินในภาคธุรกิจของจีนเป็นความเสี่ยงมากที่สุดต่อเศรษฐกิจโลก
โดยระบุว่าความเสี่ยงดังกล่าวถือเป็นรอยเลื่อน (fault line) ที่สำคัญอย่างมาก
  • สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ปรับเพิ่มแนวโน้มความน่าเชื่อถือของอังกฤษขึ้นสู่
ระดับ "มีเสถียรภาพ" จากเดิม "เชิงลบ" เนื่องจากคาดว่า ความเสี่ยงที่อังกฤษจะเผชิญกับการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปแบบไม่มีข้อ
ตกลง หรือ no-deal Brexit นั้น ลดน้อยลง หลังจากพรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นพรรครัฐบาลอังกฤษ ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือก
ตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้เริ่มการประชุมนโยบายที่จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันแล้วในวันนี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า
BOJ จะยังคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณชะลอตัวมากยิ่งขึ้น ภายหลังจากที่ญี่ปุ่นได้ปรับขึ้นภาษี
อุปโภคบริโภค
  • สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวของรัฐบาลญี่ปุ่นในวันนี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจกำหนดวงเงินในร่างงบ
ประมาณเบื้องต้นสำหรับปี 2563 สูงเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 102.66 ล้านล้านเยน (9.38 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากงบประมาณ
ด้านประกันสังคมและกลาโหมปรับตัวสูงขึ้น
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตันเปิดเผยว่า เฟดไม่มีแนวโน้มที่จำเป็นจะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
ในระยะใกล้นี้ หากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ