บริษัท อินเทล คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดัคเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศลดคาดการณ์ผลกำไรไตรมาสแรกปี 2551 เนื่องจากราคาเมมโมรี่ชิปร่วงลงต่ำกว่าคาดการณ์
อินเทลระบุว่า ราคาเมโมรี่ชิปรุ่น NAND ที่ร่วงลง อาจส่งผลให้ผลกำไรของบริษัทลดลงต่ำกว่าการคาดการณ์ โดยทั่วไปแล้ว เมมโมรี่ แฟลชรุ่น NAND ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพา อาทิ กล้องดิจิตอล และเครื่องเล่น MP3
อินเทลกล่าวว่า ผลกำไรขั้นต้นซึ่งใช้ประเมินความสามารถในการควบคุมต้นทุนการผลิตของบริษัท อาจอยู่ที่ระดับ 54% ของรายได้ ลดลงจากที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 56%
ส่วนมาตรวัดอื่นๆยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งรวมถึงการคาดการณ์ด้านรายได้ที่ประมาณ 9.4 พันล้าน - 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก ขณะที่นักวิเคราะห์ที่ธอมสัน ไฟแนนเชียลได้สำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า บริษัทจะมียอดขายเพิ่มขึ้นแตะ 9.7 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในระหว่างการประชุมกับบรรดานักลงทุนที่จะมีขึ้นในวันพุธนี้ที่สำนักงานใหญ่ที่ซิลิคอน วาลเลย์
อย่างไรก็ตาม การประกาศปรับลดคาดการณ์ผลกำไรของอินเทลในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่เป็นประโยชน์ต่อบรรดาผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ แต่จะทำให้ผลกำไรของผู้ผลิตชิปลดลง
ธุรกิจเริ่มแรกของอินเทลคือการผลิตไมโครโปรเซสเซอร์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของพีซี แต่ก็ผลิตเมมโมรี่ชิปด้วย ธุรกิจไมโครโปรเซสเซอร์ของอินเทลกำลังขยายตัวอย่างแข็งแกร่งจากความต้องการพีซีที่เพิ่มขึ้น แต่การออกมาประกาศปรับลดคาดการณ์ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า บริษัทยังคงได้รับผลกระทบจากความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดเมมโมรี่ ซึ่งกำลังได้รับแรงกดดันทางด้านราคา เนื่องจากมีปริมาณสินค้าในตลาดมากเกินไป สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--