นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง แถลงผลประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองครั้งที่ 2 ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการพักชำระหนี้กองทุนหมู่บ้านตามความสมัครใจ เพื่อให้สมาชิกที่ได้รับการพักชำระหนี้สามารถนำเงินไปประกอบอาชีพสร้างรายได้ โดยให้คณะกรรมการกองทุนฯ แต่ละหมู่บ้านพิจารณาผู้ที่มีความเหมาะสมในการพักชำระหนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีวินัยดี เพราะรัฐบาลไม่ได้ต้องการให้โครงการเป็นเพียงการแก้ปัญหาชั่วคราว แต่ต้องการให้เป็นโครงการที่สามารถต่อยอดในอนาคตได้
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังได้พิจารณาโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานระดับหมู่บ้าน โดยจะมีการจัดสรรเงินให้กองทุนหมู่บ้านฯ แห่งละไม่เกิน 200,000 บาท รวมวงเงินกว่า 14,000 ล้านบาท เช่น ยุ้งฉางชุมชน โรงตากพืชผลทางการเกษตร โรงสีชุมชน โรงงานผลิตปุ๋ยชุมชน เพื่อช่วยส่งเสริมศักยภาพในการประกอบอาชีพ ซึ่งได้มีการเตรียมขยายกรอบการทำงานให้กว้างขวางขึ้น เช่น การท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งหลังจากนี้จะเร่งร่างระเบียบหลักเกณฑ์ของโครงการเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และยังจัดเตรียมคู่มือสำหรับการจัดทำการนำเสนอและพิจารณาโครงการต่างๆ ซึ่งจะเป็นโครงการเดิมหรือโครงการใหม่ก็ได้
ทั้งนี้ ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เตรียมเสนอโครงการธุรกิจชุมชนสร้างไทยให้กองทุนหมู่บ้านฯ ได้เข้ามากู้เงินผ่านโครงการนี้ได้ โดยจะคิดอัตราดอกเบี้ยลดหย่อน 0.01% เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยเตรียมวงเงินกู้ไว้ 50,000 ล้านบาท เพื่อต่อยอดเสริมศักยภาพกองทุนหมู่บ้าน
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมฯ รับทราบรายงานผลการประเมินกองทุนหมู่บ้านฯทั่วประเทศ ซึ่งมี 363 กองทุน ที่มีการดำเนินงานที่อยู่ในเกณฑ์พัฒนาดีขึ้น ซึ่งได้จัดเตรียมงบประมาณพัฒนากองทุนเหล่านี้ประมาณกองทุนละ 1 ล้านบาท พร้อมเตรียมทบทวนปรับระดับให้กับอีกหลายกองทุนที่พบว่ามีการพัฒนาที่ดีขึ้นเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบการเตรียมขั้นตอนเลือกสรร ผู้อำนวยการกองทุนหมู่บ้านฯคนใหม่ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายเดือน ก.พ.63