นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า กลุ่มชุมชนต่างให้ความสนใจต่อนโยบายโรงไฟฟ้าชุมชน ซึ่งเป็นนโยบายด้านพลังงานเพื่อชุมชนนโยบายแรกที่จะนำพลังงานไปสร้างเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้เร่งทำให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งเบื้องต้นโรงไฟฟ้าชุมชนที่เอกชนจะเข้าไปลงทุนในพื้นที่ใดชุมชนก็จะได้รับหุ้น 10% เมื่อมีการปันผล หรือมีกำไร ชุมชนก็นำรายได้ส่วนนั้นส่งคืนเป็นทุนให้กับโรงไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้ชุมชนจะสามารถเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องลงทุนก่อน
"การให้ชุมชนเข้าร่วมทุนในโรงไฟฟ้าชุมชน เช่น ขั้นต่ำ 10% นั้น เบื้องต้นจะกำหนดให้ชุมชนไม่ต้องใส่เงินร่วมทุน แต่จะขอให้นำเงินปันผลจากการขายไฟฟ้าในสัญญา 20 ปีมาจ่ายแทน รูปแบบการซื้อขายจะเป็น Contact Farming ซึ่งหากโรงไฟฟ้าเบี้ยวไม่ซื้อพืชจากชาวบ้าน ทางภาครัฐจะยกเลิกการซื้อไฟฟ้า แต่กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรหากชุมชนเบี้ยวไม่ขายวัตถุดิบตามสัญญา"นายสนธิรัตน์ กล่าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า วันนี้ตัวแทนเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนธนาคารต้นไม้ทั่วประเทศ จากจังหวัด พะเยา เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร กาฬสินธุ์ นครราชสีมา มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ตราด ราชบุรี เพชรบุรี ชุมพร พัทลุง สตูล และปัตตานี กว่า 150 คน ที่เดินทางมายื่นหนังสือขอบคุณรัฐบาลถึงการผลักดันนโยบายดังกล่าว นับว่าเป็นกำลังใจที่ดีต่อกระทรวงพลังงาน เพราะเป็นโครงการที่พยายามเร่งรัดมาตลอด 4 เดือน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่าต้องทำให้สำเร็จเพื่อให้ภาคพลังงานไปเปลี่ยนคุณภาพชีวิตประชาชนทั้งประเทศ
กระแสตื่นตัวเรื่องโรงไฟฟ้าชุมชนมีจำนวนมากทั้งในส่วนประชาชน และผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าซึ่งต่อไปจะเริ่มเดินสายทำความเข้าใจประชาชนให้ครอบคลุมทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการโรงไฟฟ้าชุมชน ทั้งในเรื่องของพื้นที่ตั้งโรงไฟฟ้าจะต้องอยู่ในบริเวณที่ตั้งของสายส่ง สมาชิกที่เข้าร่วม ปริมาณการผลิตพืชพลังงานที่เป็นวัตถุดิบ รวมไปถึงความเข้มแข็งของชุมชนที่จะมีการขยายกำลังการผลิตต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ ยังจะนำเรื่องเกษตรพอเพียง อย่างเช่น โคกหนองนาโมเดล และป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง มาผสมผสานขับเคลื่อนโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในเรื่องอาชีพและรายได้ของประชาชนอย่างแท้จริง
ด้านนายนฤพล วันทูล ผู้จัดการเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนธนาคารต้นไม้ กล่าวว่า การเข้าพบรมว.พลังงานในวันนี้ เพื่อขอบคุณและให้กำลังใจในการผลักดันให้เกิดโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้เกษตรกรมีโอกาสปรับเปลี่ยนอาชีพ แก้ไขผลผลิตทางการเกษตร และทำให้ชุมชนเข้มแข็ง