นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนธันวาคม 2562 ว่า จากการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดล่าสุด จากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (คาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า) ชี้แนวโน้มอนาคตเศรษฐกิจที่ขยายตัว โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก โดยมีภาคอุตสาหกรรมและภาคการบริการเป็นปัจจัยสนับสนุน แต่ควรติดตามสถานการณ์ด้านการเกษตรของภาคกลาง
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ระดับ 66.7 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยใน 6 เดือนข้างหน้าจะมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคเกษตรและภาคบริการ เนื่องจากปริมาณผลผลิตมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น อาทิ ปริมาณยางพาราและสับปะรดที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากเข้าสู่ฤดูการผลิต ในส่วนของภาคบริการ มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นเมืองท่องเที่ยว เพื่อรองรับการขนส่งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งนโยบายรัฐบาลที่มีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศส่งผลให้กิจการด้านการบริการขยายตัวสูงขึ้น
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออก อยู่ที่ระดับ 65.9 แสดงถึงการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ เนื่องจากนโยบายการสนับสนุน EEC ของรัฐบาล ในส่วนของภาคบริการ ได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มภาคบริการที่ยังคงขยายตัว เนื่องจากการมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และมีการจัดทำโครงการสนับสนุนและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว มีการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวผ่านสื่อต่าง ๆ และมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนือ อยู่ที่ 61.8 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการเป็นหลัก โดยคาดว่าภาคอุตสาหกรรมจะขยายตัวจากผลผลิตภาคเกษตรออกสู่ตลาดเพื่อป้อนโรงงานอุตสาหกรรมมีจำนวนเพิ่มขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวทำให้มีการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น ส่วนภาคบริการจะขยายตัวจากภาคธุรกิจการท่องเที่ยวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของภาครัฐ และการจัดกิจกรรมสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การค้าปลีกค้าส่งก็ได้รับแรงกระตุ้นจากมาตรการ ชิม ช้อป ใช้
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้ ยังอยู่ในเกณฑ์ดีที่ 58.3 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากแนวโน้มของภาคเกษตรและภาคการบริการ โดยภาครัฐเข้าให้การช่วยเหลือสนับสนุนทำให้ราคาปาล์มน้ำมันและยางพาราปรับตัวเพิ่มขึ้น ในส่วนของภาคการบริการ เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว คาดว่าภาคบริการการท่องเที่ยวจะดีขึ้นจากนโยบายของภาครัฐที่มุ่งเน้นการกระจายการเดินทางของนักท่องเที่ยวสู่จังหวัดเมืองรอง เพิ่มค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวด้วยสินค้ามูลค่าสูงหรือประสบการณ์ท่องเที่ยว และเพิ่มความเชื่อมั่นด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเมืองชายแดนใต้ อย่างไรก็ดี ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการแข็งค่าของเงินบาทที่อาจจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นการส่งออกเป็นหลัก
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคตะวันตก อยู่ที่ระดับ 58.1 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการเป็นหลัก เนื่องจากมีการลงทุนด้านอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคเอกชนมากขึ้น ในส่วนของภาคบริการ มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และมีการยกระดับมาตรฐานการบริการและมาตรฐานความปลอดภัยด้านต่างๆ ให้แก่นักท่องเที่ยว
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล อยู่ในเกณฑ์ดีที่ระดับ 56.6 สะท้อนถึงการคาดการณ์เศรษฐกิจที่จะขยายตัว โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมตามความต้องการในประเทศที่เพิ่มขึ้น
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ ภาคกลาง ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 50.5 โดยควรติดตามสถานการณ์ด้านการเกษตร เนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวกับภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนข้างหน้า