พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งชาติ (กปน.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้รับทราบ สถานการณ์ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม และความคืบหน้าการดำเนินการตามมติคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติที่สำคัญ ได้แก่ การปรับตัวของราคาผลปาล์มในท้องตลาดจากเดิมราคากิโลกรัม (กก.) ละ 2.30-2.80 บาท เป็นราคากิโลกรัมละ 5.70-6.60 บาท
ทั้งนี้ เป็นผลจากมาตรการแก้ไขของคณะกรรมการฯ ที่ได้มีมาตรการการสั่งซื้อน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ไปใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการผลิตน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 รวมถึงรับทราบความพึงพอใจของเกษตรกรชาวสวนปาล์มจากราคาปาล์มน้ำมันที่สูงขึ้นและการได้รับเงินประกันรายได้ ตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันปี 2562 ถึง ปี2563
ที่ประชุมฯ มีมติเห็นชอบการขอขยายระยะเวลาดำเนินการติดตั้งเครื่องวัดปริมาณน้ำมันปาล์มดิบจาก 2 เดือนเป็น 6 เดือน และการทบทวนมาตรการการบริหารการนำเข้าสินค้าน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์ม ซึ่งจากเดิมขึ้นทะเบียนเพียงครั้งเดียว โดยไม่กำหนดวันหมดอายุ เป็นกำหนดขึ้นทะเบียนเป็นรายปีเพื่อให้สามารถติดตาม ตรวจสอบสถานะปัจจุบันของผู้นำเข้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเห็นชอบแนวทางการกำหนดด่านนำเข้าและนำผ่านสินค้าน้ำมันปาล์ม และน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์ม เพื่อรองรับมาตรการควบคุมและการแก้ปัญหาปาล์มน้ำมันให้มีความสมดุลต่อไป
ด้านพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขณะนี้ราคาผลปาล์มอยู่ที่ 6.60 บาท/กก. ถือว่าเป็นราคาที่ดี สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร โดยขณะนี้ยังไม่มั่นใจว่า ราคาจะปรับขึ้นอีกหรือไม่ เพราะขณะนี้นับว่าสูงเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว แต่รัฐบาลก็จะดูแลกฎหมายเพิ่มเติม โดยเฉพาะการลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน
นอกจากนี้ยังได้กำชับสั่งการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงานให้ดำเนินการตามแผนงานที่ผ่านความเห็นชอบแล้ว เพื่อแก้ปัญหาการควบคุมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มดิบทั้งระบบ และช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันอย่างเร่งด่วนให้ได้ผลเป็นรูปธรรม และมีความยั่งยืนตลอดไป
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติชะลอการส่งน้ำมันปาล์มดิบไปผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มดิบตลาดโลก ปรับตัวสูงขึ้น จาก 17 บาท/กก. เป็น 33 บาท/กก.
"เนื่องจากในขณะนี้ราคาน้ำมันปาล์มมีราคาสูง จึงขอมติชะลอการส่งน้ำมันปาล์มดิบไปผลิตกระแสไฟฟ้าที่ได้มีมติไปแล้วอีกประมาณ 1.3 แสนกว่าตัน แต่ยังประมูลไม่ครบ ก็ขอให้ชะลอการดำเนินการไปเพราะสถานการณ์ไม่เอื้อ "นายสนธิรัตน์ กล่าว