นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารเงินช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิตและภาคบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า โดยที่ประชุมได้เห็นชอบประกาศเปิดรับสมัครโครงการขอรับความช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิตและภาคบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า ประจำปีงบประมาณ 2564 ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศ มีกำหนดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 2-31 มกราคม 2563
การให้ความช่วยเหลือภายใต้โครงการดังกล่าว อยู่ในรูปแบบของการสนับสนุนการดำเนินงาน กิจกรรมต่างๆ โดยจะไม่อยู่ในรูปของตัวเงิน (in kind) และไม่เป็นโครงการที่มุ่งในการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น การจัดซื้อครุภัณฑ์ เครื่องจักร ที่ดิน เป็นต้น รวมถึงการก่อสร้าง ซ่อมแซมอาคาร และเงินทุนหมุนเวียน โดยคุณสมบัติของผู้มีสิทธิขอรับความช่วยเหลือ จะต้องเป็นกลุ่มผู้ผลิตสินค้าหรือบริการที่ได้รับหรือคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า หรือเป็นกลุ่มผู้ผลิตสินค้าหรือบริการที่ประสงค์จะใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรีทางการค้าที่ต้องการขอรับความช่วยเหลือในระยะสั้น
สำหรับขั้นตอนการเสนอโครงการ กลุ่มผู้ผลิตสินค้าหรือบริการที่ประสงค์จะขอรับความช่วยเหลือหรือประสงค์จะใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรีทางการค้า จะต้องยื่นใบสมัครขอรับความช่วยเหลือพร้อมรายละเอียดข้อเสนอโครงการฯ โดยให้เสนอผ่านหน่วยงานของรัฐหรือสมาคมหรือองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้อง เช่น พาณิชย์จังหวัด สหกรณ์จังหวัด รวมถึงสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นต้น ภายในวันที่ 31 มกราคม 2563 และเมื่อหน่วยงานของรัฐหรือสมาคมหรือองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้องได้รับใบสมัครขอรับความช่วยเหลือพร้อมรายละเอียดข้อเสนอโครงการแล้ว หน่วยงานดังกล่าวจะพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและรายละเอียดข้อเสนอโครงการ รวมทั้งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หากเห็นว่าถูกต้องครบถ้วน ให้นำส่งกรมการค้าต่างประเทศภายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563
ทั้งนี้ ขั้นตอนและเอกสารการสมัครสามารถศึกษารายละเอียดได้จากประกาศคณะกรรมการบริหารเงินช่วยเหลือฯ รวมทั้งตัวอย่างการเขียนเสนอโครงการขอรับความช่วยเหลือ สามารถติดตามได้จากเว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศต่อไป
นายกีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมฯ ยังมีมติอนุมัติการให้ความช่วยเหลือโครงการที่มีผู้ยื่นเสนอขอรับความช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวฯ ในปีงบประมาณ 2563 จำนวนทั้งสิ้น 6 โครงการ มีวงเงินสำหรับดำเนินกิจกรรมกว่า 18 ล้านบาท โดยในปีนี้โครงการที่ได้รับอนุมัติส่วนใหญ่จัดอยู่ในกลุ่มสินค้าโคนมและโคเนื้อที่ได้รับผลกระทบจาก FTA ไทย-ออสเตรเลีย และไทย-นิวซีแลนด์ และนี้ยังมีโครงการอื่นๆ ที่ประสงค์จะเสริมสร้างศักยภาพเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาด การแข่งขันทางการค้า และการใช้สิทธิประโยชน์จากการเปิดเสรีทางการค้า โดยกรมฯ เตรียมดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อไปซึ่งทั้ง 6 โครงการ ประกอบด้วย
1. โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์นมและช่องทางการจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ ของชุมนุมสหกรณ์โคนมภาคใต้และตะวันตก จำกัด และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
2. โครงการเพิ่มศักยภาพฟาร์มโคนมระบบอินทรีย์ในการผลิตนมดิบทำผลิตภัณฑ์นมอินทรีย์เชิงพาณิชย์สู่ตลาดอินทรีย์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
3. โครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตโคเนื้อ สหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป. กลางโพนยางคำ จำกัด สำหรับการแข่งขันในเขตการค้าเสรี (FTA) และประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จังหวัดสกลนคร
4. โครงการศึกษาช่องทางการตลาดเนื้อโคประเทศกัมพูชาและการพัฒนาตัดแต่งเนื้อ แปรรูปเนื้อโค จังหวัดสุรินทร์
5. โครงการการศึกษาความเป็นไปได้ของตลาดการค้าไทย-จีน เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปมะพร้าวด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (Research to Market) จังหวัดปราจีนบุรี
6. โครงการพัฒนาศักยภาพการทอผ้าด้วยกี่กระตุกยกดอก 12 ตะกอ จังหวัดร้อยเอ็ด