เวิลด์แบงค์แนะจีนขึ้นดอกเบี้ยเดือนนี้ รับมือเงินเฟ้อ-คุมราคาสินทรัพย์

ข่าวต่างประเทศ Tuesday March 4, 2008 15:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          จัสติน หลิน หยีฟู่ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกกล่าวว่า จีนควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเงินเฟ้อและควบคุมราคาสินทรัพย์ไม่ให้ปรับตัวสูงขึ้นมากเกินไป
"ถ้าธนาคารกลางจีนไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของจีนจะติดลบ ผมจึงแนะนำให้จีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรักษาความยืดหยุ่นและเพื่อควบคุมราคาสินทรัพย์" นายหลินกล่าวกับผู้สื่อข่าวในการประชุมที่กรุงปักกิ่ง
อัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค.ของจีนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี เนื่องจากราคาอาหารและพลังงานพุ่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากเหตุพายุหิมะพัดถล่ม โดยจีนได้หยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากแนวโน้มการส่งออกซบเซาลง ตลาดหุ้นทรุดตัวลง และหลังจากรัฐบาลตั้งเป้าสกัดเม็ดเงินเก็งกำไรจากต่างประเทศ
"ธนาคารกลางจีนอาจต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วที่สุดในเดือนนี้เพราะตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรงในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นผลมาจากพายุหิมะ" นายหลินกล่าว
เว็บไซต์บลูมเบิร์กรายงานว่า จีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 6 ครั้งในปีที่แล้ว ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากยืนอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 9 ปีที่ 7.47% และ 4.14% ตามลำดับ ทั้งนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนมีเม็ดเงินสะพัดเป็นจำนวนมากเนื่องจากจีนมียอดเกินดุลการค้ากับต่างประเทศมูลค่ามหาศาล และยังเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตของโลก
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประเมินว่า ในปี 2550นั้น อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนคิดเป็นสัดส่วน 20% ของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากกว่าประเทศอื่นๆ โดยไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 4.1% ในปีที่แล้ว ลดลงจากปี 2550 ที่ระดับ 4.9% เนื่องจากภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อและภาวะตกต่ำในตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ