นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สหภาพยุโรป (EU) ได้ออกข้อกำหนด Directive (EU) 2019/1845 และ Directive (EU) 2019/1846 โดยเพิ่มเติมการยกเว้นการใช้สาร Bis (2-ethylhexyl) phthalate (DEHP) และการใช้ตะกั่ว ตามลำดับ เพื่อแก้ไขใน Annex III Directive 2011/65/EU ภายใต้ระเบียบว่าด้วยการจำกัดการใช้สาร อันตรายบางชนิดในผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Restriction of Hazardous Substances : RoHS) เนื่องจากสาร DEHP นำไปใช้ในส่วนประกอบของยางที่ใช้ในระบบเครื่องยนต์ และตะกั่วเพื่อใช้บัดกรีในระบบควบคุมการสันดาปเครื่องยนต์ ดังนั้นสาร DEHP และตะกั่ว จึงไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภค
ทั้งนี้ ข้อกำหนดทั้งสองฉบับจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป โดยประเทศสมาชิกจะต้องยอมรับ เผย แพร่ และนำกฎระเบียบดังกล่าวมาใช้บังคับอย่างช้าสุดไม่เกินวันที่ 30 เมษายน 2563 "ผู้ประกอบการไทยควรเตรียมความพร้อมให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมายฉบับดังกล่าวได้อย่างไม่เป็นอุปสรรคทางการค้าผู้ ประกอบการ/ผู้ส่งออก"