นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกร. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 62 จะขยายตัวได้เพียง 2.5% ลดลงจากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 2.7-3.0% รวมทั้งปรับลดมูลค่าการส่งออกไทยในปีนี้ลงเหลือ -2.5% จากเดิมที่คาดไว้ -2 ถึง 0% ขณะที่เงินเฟ้อทั้งปี 62 คาดว่าจะอยู่ที่ 0.7% จากเดิมคาด 0.8-1.2%
ทั้งนี้ กกร.เห็นว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในปี 62 ยังสะท้อนการชะลอตัว โดยการส่งออกหดตัวต่อเนื่องตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า และผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า ส่งผลให้การนำเข้า การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนภาคเอกชนหดตัวเช่นกัน ด้านเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนชะลอตัวลง แม้มีมาตรการภาครัฐช่วยพยุงไว้บางส่วน ขณะที่มีเพียงการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวได้ต่อเนื่องจากแรงหนุนมาตรการ Visa on Arrivals
สำหรับในปี 63 กกร.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 2.5-3.0% โดยเศรษฐกิจไทยยังอยู่ท่ามกลางหลายปัจจัยกดดันที่ต่อเนื่องมาจากปี 62 ทั้งผลจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและความผันผวนของค่าเงิน รวมทั้งมีปัจจัยลบเพิ่มเติม คือ ความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางกรณีสหรัฐและอิหร่าน ที่หากสถานการณ์ยืดเยื้อ อาจผลักดันให้ราคาน้ำมันยืนอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ภาวะภัยแล้งรุนแรง จะส่งผลกระทบต่อผลผลิตและกำลังซื้อ
"ทิศทางราคาน้ำมัน และราคาอาหารสดที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จะทำให้การดำเนินนโยบายการเงินของทางการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เผชิญข้อจำกัดมากขึ้น" นายกลินท์ระบุ