นายธวัชชัย จักรไพศาล รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยความคืบหน้าการซื้อก๊าซธรรมชาติตามสัญญาระยะยาวกับ บมจ.ปตท. (PTT) ซึ่งเป็นสัญญาหลัก (GLOBAL DCQ) เป็นเวลา 10 ปีนั้นว่า ขณะนี้กำลังพิจารณารายละเอียด ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ กฟผ. และส่งให้อัยการสูงสุดตรวจสอบ หลังจากนั้นจะลงนามสัญญาร่วมกันซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นภายในครึ่งแรกปีนี้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ กฟผ.ได้ต่อสัญญาการซื้อก๊าซฯจาก ปตท.เป็นการชั่วคราวไปจนถึงกลางปีนี้ โดยในส่วนสัญญาหลักจะซื้อก๊าซฯเพิ่มขึ้นจากสัญญาชั่วคราวที่ปัจจุบันมีการซื้ออยู่ราว 200-300 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือน มิ.ย.63 โดยใช้สำหรับโรงไฟฟ้า 3-4 แห่ง ไม่ครอบคลุมโรงไฟฟ้าจะนะ และโรงไฟฟ้าพระนครใต้ ขณะที่ความต้องการใช้ก๊าซฯของกฟผ.ในแต่ละปีจะอยู่ที่ราว 5-6 ล้านตัน หรือประมาณ 700-840 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน
"สัญญาหลักขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะมีจำนวนเท่าใด เพราะต้องพิจารณาไม่ให้กระทบทั้งสองฝ่าย โดยต้องดูถึงการพยากรณ์การใช้ไฟฟ้า การใช้พลังงานทดแทน และนโยบายเปิดเสรีนำเข้าก๊าซฯของรัฐบาลด้วย แต่เบื้องต้นจะมีปริมาณที่มากกว่าสัญญาชั่วคราว"นายธวัชชัย กล่าว
นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า การเดินทางมาตรวจเยี่ยมงาน กฟผ.ของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ยังได้มอบหมายให้กฟผ.เร่งนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในช่วงที่เงินบาทแข็งค่าด้วย โดย กฟผ.ได้แจ้งว่าในปีนี้มีแผนจะนำเข้า LNG จากตลาดจร (SPOT) อีก 6 แสนตัน ซึ่งนับว่าเป็นแผนเพิ่มเติมหลังจากที่ประมูลนำเข้า LNG จำนวน 2 ล็อต รวม 1.3 แสนตัน โดยมี PETRONAS LNG จากมาเลเซีย เป็นผู้ชนะประมูล ซึ่งได้นำเข้ามาแล้วล็อตแรกในเดือน ธ.ค.62 และจะนำเข้าอีกล็อตในเดือน เม.ย.63