นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน ม.ค.63 อยู่ที่ 63.15 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 7.91 จุด หรือคิดเป็น 14.32% จากระดับ 55.24 จุดในเดือน ธ.ค.62 โดยมีปัจจัยหลักมาจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำระยะสามเดือนในไตรมาสแรกของปี 63 (ม.ค.-มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 66.36 จุด เพิ่มขึ้น 9.44 จุด หรือคิดเป็น 16.59% จากไตรมาสสุดท้ายของปี 62 ที่อยู่ในระดับ 56.92 จุด โดยนักลงทุนคาดว่ามีปัจจัยมาจากความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ทิศทางราคาน้ำมัน และสถานการณ์สงครามการค้า
ผลสำรวจความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 312 ตัวอย่าง พบว่า 38.14% จะซื้อทองคำในช่วงเดือนนี้ ขณะที่ 35.58% คาดว่ายังไม่ซื้อทองคำ และ 26.28% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำหรือไม่
ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำจำนวน 10 ตัวอย่าง เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน ม.ค.63 จะเพิ่มขึ้นมีจำนวน 7 ราย อีก 2 รายคาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือน ธ.ค.62 และมี 1 รายที่คาดว่าราคาทองคำจะลดลง
สำหรับการคาดการณ์ราคาทองคำในเดือน ม.ค.63 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมองดังนี้ Gold Spot ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 1,502-1,586 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 21,500-22,600 บาทต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ และด้านค่าเงินบาทไทยให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 29.77-30.44 บาท/ดอลลาร์
ทั้งนี้ คำแนะนำการลงทุนทองคำในเดือน ม.ค.63 ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ให้ความเห็นว่าราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาดีดตัวขึ้นสูง หากมีแรงขายทำกำไรออกมาคาดว่าจะเป็นเพียงแรงขายในระยะสั้น โดยราคาทองคำมีโอกาสที่จะขยับขึ้นต่อ จึงแนะนำให้นักลงทุนรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาทองคำย่อตัวลงมาใกล้บริเวณแนวรับ 1,498 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ และเพื่อลดความเสี่ยงควรตั้งจุดทำกำไรและตัดขาดทุนหากราคาทองคำไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์