นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด เปิดเผยในงานสัมมนา "2020 ปีแห่งการลงทุน : ทางออกประเทศไทย"ว่า การลงทุนของบมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) ในปี 63 คาดว่าจะขยายลงทุนไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในธุรกิจคลังสินค้าให้เช่า ซึ่งเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ FPT มีความเชี่ยวชาญ โดยประเทศที่สนใจเข้าไปลงทุน ได้แก่ อินโดนีเซีย และเวียดนาม เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศเป็นประเทศที่มีศักยภาพ มีเศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมีบริษัทต่างชาติหลายรายเข้าไปลงทุนมากขึ้น โดยคาดว่าการลงทุนในต่างประเทศของ FPT จะมีความชัดเจนในปีนี้
ส่วนการลงทุนในประเทศไทยของกลุ่มเฟรเซอร์ส ยังคงต้องรอการเดินหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่จะเกิดขึ้นว่าจะมีโครงการลงทุนใดที่ออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งจะทำให้กลุ่มบริษัทสามารถตัดสินใจเดินหน้าลงทุนโครงการใหม่ ๆ ในประเทศได้ ขณะเดียวกันภาครัฐยังต้องกำหนดแนวทางการลงทุนที่ชัดเจนและส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชนอย่างเหมาะสม ตลอดจนสร้างความยั่งยืน รวมไปถึงการพัฒนาบุคลากรในประเทศให้มีศักยภาพมากขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งจะทำให้ภาคเอกชนมีความเชื่อมั่น สามารถมองหาโอกาสและเดินหน้าการลงทุนได้อย่างเต็มที่
"ภาครัฐต้องกำหนดแนวทางต่าง ๆ อย่างชัดเจนออกมา เพื่อทำให้ภาคเอกชนเกิดความมั่นใจ อย่างที่รัฐบาลสิงคโปร์เขามีการกำหนดแนวทางการสร้างความยั่งยืนและดูแลประชากรในประเทศ ซึ่งมีแนวทางที่ชัดเจนและทำให้เอกชนสามารถกำหนดทิศทางการลงทุนที่ชัดเจนในการเดินหน้าการลงทุนได้ และควรปล่อยให้การลงทุนเป็นไปตามกลไก ภาครัฐเอื้อประโยชน์ได้แต่ควรทำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งมองว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นสิ่งที่ช่วยขับเคลื่อนการลงทุนอสังหาฯ"นายปณต กล่าว