นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ได้มอบหมายให้สำนักงานฯ แต่งตั้งคณะทำงานพิเศษติดตามการรวมธุรกิจ กรณีห้างเทสโก้โลตัสในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อศึกษาและจัดเตรียมข้อมูลโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย รวมทั้งศึกษาผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการดังกล่าว ภายหลังจากมีข่าวว่าห้างค้าปลีกรายใหญ่ของไทยหลายราย มีความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลซื้อกิจการของห้างเทสโก้โลตัสในประเทศไทย ซึ่งเป็นการรวมธุรกิจที่อาจก่อให้เกิดการผูกขาด หรือการเป็นผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งมีอำนาจเหนือตลาดตาม พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 และอาจใช้อำนาจเหนือตลาดเอาเปรียบคู่แข่งได้
สำหรับขั้นตอนการรวมธุรกิจ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการผูกขาดหรือการเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาดนั้น จะต้องขออนุญาตการรวมธุรกิจตาม พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 กรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจรวมธุรกิจโดยไม่ขออนุญาต ต้องชำระค่าปรับทางปกครองในอัตราไม่เกิน 0.5% ของมูลค่าธุรกรรมในการรวมธุรกิจ
ส่วนการพิจารณาอนุญาตการรวมธุรกิจ กขค.จะพิจารณาอนุญาตภายใน 90 วันนับแต่วันที่ได้รับคำขออนุญาตรวมธุรกิจ พร้อมข้อมูลและเอกสารหลักฐานครบถ้วน และในกรณีมีความจำเป็นสามารถให้ขยายเวลาออกไปได้อีกไม่เกิน 15 วัน ในกรณีที่มีคำสั่งอนุญาต กขค.อาจกำหนดระยะเวลาหรือเงื่อนไขใดๆ ให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตปฏิบัติได้ และผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้รวมธุรกิจ ต้องดำเนินการตามระยะเวลาและเงื่อนไขที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการฯ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ผู้ประกอบธุรกิจที่ประสงค์จะรวมธุรกิจ ต้องปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตการรวมธุรกิจ พ.ศ. 2561 ซึ่งในการขออนุญาตรวมธุรกิจต้องให้ข้อมูลและขออนุญาตตามแบบที่เลขาธิการฯ กำหนด พร้อมเอกสารหลักฐานการประกอบการขออนุญาตรวมธุรกิจ เช่น แผนการรวมธุรกิจและระยะเวลาดำเนินการ, ผลการศึกษาและการวิเคราะห์การรวมธุรกิจ เป็นต้น ซึ่งสำนักงานฯ จะตรวจแบบคำขอ พร้อมข้อมูลและเอกสารหลักฐานที่ครบถ้วนแล้ว นำเสนอ กขค.พิจารณาการขออนุญาตรวมธุรกิจต่อไป