สแตนดาร์ด แบงค์เผยกำไรปี50 พุ่ง 30% จากการดำเนินงานนอกปท.แอฟริกาใต้

          สแตนดาร์ด แบงค์ กรุ๊ป ลิมิเต็ด บริษัทผู้ปล่อยกู้รายใหญ่ที่สุดของแอฟริกาเปิดเผยว่า ผลกำไรประจำปี 2550 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 30% ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากการขยายตัวด้านการปล่อยเงินกู้ และการจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากการดำเนินงานนอกประเทศแอฟริกาใต้ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
          สำนักข่าวบลูมบิร์กรายงานแถลงการณ์ของบริษัทที่ระบุว่า รายได้สุทธิของบริษัทไต่ระดับขึ้นมาอยู่ที่ 1.365 หมื่นล้านแรน (1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากระดับ 1.052 หมื่นล้านแรน ในปีก่อนหน้านี้ โดยธนาคารได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการปี 2551 อยู่ที่ระดับ 5% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อในแอฟริกาจากก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ไว้ในระดับ 10%
          "สแตนดาร์ด แบงค์ ได้ประโยชน์จากการทำธุรกรรมระหว่างประเทศในลอนดอน แอฟริกา และอาร์เจนติน่า" ร็อบ นาเกล ซึ่งเป็นผู้ช่วยบริหารจัดการกองทุนมูลค่า 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐใน Cadiz African Harvest Asset Management ในเคปทาวน์กล่าว พร้อมทั้งชี้ถึงข้อได้เปรียบว่า บริษัทมีข้อจำกัดด้านเงินทุนน้อยกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ
          ทั้งนี้ สแตนดาร์ด แบงค์ ซึ่งมีการดำเนินงานอยู่ในทวีปแอฟริกา 18 ประเทศ และใน 21 ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ได้ซื้อกิจการในไนจีเรีย เคนย่า อาร์เจนติน่า และตุรกีเพื่อกระตุ้นการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ โดยได้ขายหุ้น 20% ให้กับธนาคารอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงค์ ออฟ ไชน่า เป็นมูลค่า 3.7 หมื่นล้านแรนในเดือนนี้ 
          อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสแตนดาร์ด แบงค์จะมีผลการดำเนินงานที่ชะลอตัวลงในครึ่งหลังของปี 2550 อันเนื่องมาจากสถานการณ์ด้านอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นและเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในรอบ 4 ปี ซึ่งทำให้บริษัทมียอดหนี้เสียเพิ่มมากขึ้น แต่ธนาคารยังได้ประโยชน์จากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 5.1% ในแอฟริกา ซึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทหลายแห่งกู้ยืมเงินเพื่อนำไปใช้ในการก่อสร้างถนน เส้นทางรถไฟ ท่าเรือ และสนามกีฬาเพื่อรับการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2010