นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยความคืบหน้าการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันให้ได้ตามที่กฎหมายกำหนดมาตรฐานยูโร 5 ของ 6 โรงกลั่นน้ำมัน ได้แก่ บมจ.ไทยออยล์ (TOP), บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC), บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) , บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) และ บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง(SPRC) เบื้องต้นจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2567
ขณะที่ต้นทุนจากการปรับมาตรฐานจากปัจจุบันเป็นมาตรฐานยูโร 4 เป็นยูโร 5 ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับทางกลุ่มโรงกลั่นฯ ส่วนต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนั้นจะบวกในเนื้อน้ำมันเท่าไร ทางสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) จะเป็นผู้ศึกษาต้นทุนดังกล่าว
"ปัจจุบันมีโรงกลั่นฯที่สามารถผลิตน้ำมันมาตรฐานยูโร 5 ได้แก่ โรงกลั่น PTTGC TOP และ BCP ซึ่งการปรับปรุงมาตรฐานน้ำมันเป็นยูโร 5 ต้นทุนแต่ละโรงจะแตกต่างกับ เนื่องจากคุณภาพโรงกลั่นฯแตกต่างกัน ปัจจุบันกรมฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับทางกลุ่มโรงกลั่นฯ อย่างไรก็ตามในช่วงนี้มาตรการลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ได้เร่งนโยบายส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล B10 และB20 สามารถลดปัญหาฝุ่น 20-25%"นางสาวนันธิกา กล่าว