นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนธันวาคม 2562 ส่งออกได้ 72,265 คัน ลดลง 24.26% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) จากสงครามการค้า โดยส่งออกลดลงเกือบทุกตลาด ยกเว้นตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา และอเมริกากลางและอเมริกาใต้ มูลค่าการส่งออก 37,595.95 ล้านบาท ลดลง 20.58% (YoY) ส่วนยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปทั้งปี 2562 อยู่ที่ 1,054,103 คัน เป็นการส่งออกลดลง 7.59% จากปี 2561 แต่มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 1,000,000 คัน จำนวน 54,103 คัน มีมูลค่าการส่งออก 545,967.56 ล้านบาท ลดลง 8.21%
ส่วนยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนธันวาคม 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 89,285 คัน ลดลง 21.4% (YoY) จากการเข้มงวดของสถาบันการเงินในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ ประกอบกับเป็นช่วงเปลี่ยนรุ่นรถยนต์นั่งอีโคคาร์หลายบริษัทและเปลี่ยนรุ่นรถกระบะในบางบริษัท แต่เพิ่มขึ้น 12.6% จากเดือนพฤศจิกายน 2562 โดยมียอดจองรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา 37,489 คัน
ขณะที่ยอดขายทั้งปีอยู่ที่ 1,007,552 คัน ลดลง 3.3% จากระยะเวลาเดียวกันในปี 61 แต่มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 1,000,000 คัน จำนวน 7,552 คัน ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,718,587 คัน ลดลง 3.9%
ด้านการผลิต ในเดือนธันวาคม 2562 จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้มีจำนวนทั้งสิ้น 134,208 คัน ลดลง 20.75% (YoY) จากการผลิตรถยนด์นั่งและรถกระบะเพื่อส่งออกที่ลดลง 32.96% และ 15.35% ตามลำดับ เพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงจากสงครามการค้า และผลิตรถยนต์นั่งและรถกระบะเพื่อจำหน่ายในประเทศที่ลดลง 13.2% และ 23.92% ตามลำดับ และลดลง 12.9% จากเดือนพฤศจิกายน 2562
ขณะที่จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - ธันวาคม 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,013,710 คัน ลดลง 7.1% จากปี 61 แต่มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 2,000,000 คัน จำนวน 13,710 คัน
สำหรับในปี 2563 นายสุรพงษ์ เปิดเผยว่า ประมาณการการผลิตรถยนต์ไว้ประมาณ 2,000,000 คัน น้อยกว่าปี 2562 ซึ่งมีจำนวน 2,013,710 คัน ลดลง 13,710 คัน คิดเป็น 0.68% โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 1,000,000 คัน และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 1,000,000 คัน
สำหรับการผลิตเพื่อการส่งออก จำนวน 1,000,000 คัน ลดลงจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 1,037,164 คัน เป็นจำนวน 37,164 คัน หรือลดลง 3.58% เพราะยังกังวลเรื่องสงครามการค้าที่ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะยุติ ค่าเงินบาทแข็ง รวมถึงความขัดแย้งระหว่างประเทศในบางภูมิภาค
ส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ จำนวน 1,000,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 976,546 คัน เป็นจำนวน 23,454 คัน หรือเพิ่มขึ้น 2.4% เพราะการผลิตรถอีโคคาร์รุ่นใหม่ของหลายบริษัทเข้าสู่ภาวะปติ แต่ยังมีความกังวลเรื่องภัยแล้ง การเมืองในประเทศ และดัชนีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ชะลอตัว