ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.56 อ่อนค่าจากช่วงเช้าจากเงินไหลออกหลังภาครัฐหนุนนำเงินออกไปลงทุน-ยังเกาะติดสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโคโรนา

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 24, 2020 17:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.56 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเช้า ที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.50 บาท/ดอลลาร์

การอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงนี้ น่าจะเป็นผลจากเม็ดเงินดีลใหญ่ที่ออกไปต่างประเทศ ภายหลังรัฐบาลส่งเสริมให้มีการนำ เงินไปลงทุนในต่างประเทศได้มากขึ้น อย่างไรก็ดี ยังคงต้องติดตามสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งในระยะสั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาคของการท่องเที่ยว

"ตอนนี้บาทที่อ่อนค่า น่าจะเป็นผลจากดีลใหญ่ๆ ที่เป็นขาออก ช่วงนี้บาทเหวี่ยงตาม flow มากกว่าปัจจัยพื้นฐาน" นักบริหาร
เงินระบุ

ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แต่ตลาดคาด ว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมรอบนี้

นักบริหารเงิน คาดว่า สัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.50 - 30.67 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.52/55 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.46 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1031/1035 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1053 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,569.55 จุด ลดลง 4.15 จุด (-0.26%) มูลค่าการซื้อขาย 47,514 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,075.97 ลบ.(SET+MAI)
  • ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำคณะกรรมการเข้าพบนายอุตตม สาวนายน รมว.
คลัง เพื่อหารือและผลักดันข้อเสนอภาคเอกชนในการขับเคลื่อนแนวทางส่งเสริมการประกอบธุรกิจ
  • รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเสนอมาตรการ "ชิม ช้อป ใช้" อินเตอร์เข้าสู่ที่ประชุม
คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ โดยหวังจะเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติว่า ขณะนี้ยังไม่ได้หารือในรายละเอียด ดังนั้นจึงขอ
ให้ได้มีโอกาสหารือในรายละเอียดกับ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาก่อน แต่ทั้งนี้ มองว่าโครงการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Mobile Application หรือ VAT Refund for Tourists ของกรมสรรพากร ถือเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและ
จูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในประเทศมากขึ้นได้อยู่แล้ว
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส 2019 Novel Coronavirus (n-CoV) ในจีน
ต่อตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย น่าจะยังส่งผลจำกัดต่อการท่องเที่ยวไทย เนื่องด้วยสถานการณ์ครั้งนี้ทางการจีนมีระบบการจัดการที่รวด
เร็วและเข้มข้น ประกอบกับวิวัฒนาการทางการแพทย์และเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้น และการสื่อสารที่ทั่วถึงทำให้นักท่องเที่ยวมีการ
หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไป โดยประเมินว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในปี 2563 อาจลดลงเหลือประมาณ 10.94-10.77 ล้าน
คน หรือหดตัวประมาณ 0.5-2.0%
  • เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้ง (S&P) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศเปิดเผยว่า การบริโภคของจีนซึ่ง
เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ขณะที่ชาวจีนหลายล้านคนเข้าสู่ช่วงวันหยุด
เทศกาลตรุษจีน
  • รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐยังคงพิจารณาที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหภาพยุโรป (EU) และจาก
ประเทศอื่นๆ หากประเทศเหล่านั้นยังดำเนินมาตรการกีดกันด้านการค้าต่อไป
  • ประธานคณะมนตรียุโรป และประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้ลงนามในข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพ
ยุโรป (Brexit) แล้ว อย่างไรก็ดี ยังต้องรอให้รัฐสภายุโรป (EU) เปิดโหวตรับรองข้อตกลงดังกล่าวด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 29
ม.ค. นี้
  • สัปดาห์หน้าติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในวันที่ 28-29 มกราคม 2563 และการรายงานตัวเลขอัตราการ

ขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯไตรมาส 4/2562


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ