นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายแก่กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ในการกำหนดยุทธศาสตร์ด้านขนส่งทางรางจะต้องมองหลายมิติ เพื่อให้เกิดโครงข่ายที่สมบูรณ์และเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งไทยตั้งอยู่ในจุดที่ได้เปรียบในการเชื่อมต่อกลุ่มประเทศ BIMSTEC (ประเทศในกลุ่มอ่าวเบงกอล) ด้านตะวันตกไปถึงยุโรป และเชื่อมกับฝั่งตะวันออก (ลาว, กัมพูชา, เวียดนาม) ไปยังประเทศจีน และญี่ปุ่น
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้ทบทวนการศึกษาโครงการพัฒนาแนวรถไฟ สายชุมพร-ระนอง เพื่อเชื่อมทะเลอันดามัน-อ่าวไทย ไปยังพื้นที่ EEC ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีการศึกษาเบื้องต้นไว้แล้ว และเตรียมเสนอของบประมาณปี 63 สำหรับการศึกษาออกแบบ แต่สำนักงบประมาณให้ชะลอไปก่อนหน้านี้ ดังนั้น เมื่อนายกรัฐมนตรีเร่งรัด ทางกรมขนส่งทางรางจึงเตรียมตั้งงบประมาณปี 64 แต่อาจเห็นว่าล่าช้า จึงให้เสนอขอใช้งบกลางปี 63 ประมาณ 90 ล้านบาท เพื่อทำการศึกษาออกแบบรายละเอียด
รวมถึงโครงการรถไฟเชื่อมแลนด์บริดจ์ "สงขลา-สตูล" ซึ่งกรมการขนส่งทางรางจะร่วมวางแผนงาน โดยอาจจะมีการขยับแนวไปอยู่ในพื้นที่ที่ประชาชนให้ความร่วมมือ มากกว่าจุดเดิมที่ประชาชนอาจจะเห็นว่าจะเกิดปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือกระทบต่อการท่องเที่ยว ซึ่งอาจต้องสร้างทางรถไฟเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังรอ พ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ.... ซึ่งคาดว่าจะอนุมัติช่วงหลังเม.ย.นี้ จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอน โดยให้กรมการขนส่งทางรางเตรียมพร้อมในการออกกฎกระทรวง, ระเบียบ และประกาศต่างๆ รองรับหลัง พ.ร.บ.กรมการขนส่งทางราง มีผลบังคับใช้
ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.35 กม. วงเงินลงทุนรวม 179,412ล้านบาท ภายใต้ความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีนนั้น อยู่ระหว่างประสานกับฝ่ายจีนในการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน (Joint Committee หรือ JC) ครั้งที่ 28 แต่จีนประสบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งอาจจะต้องพิจารณาในการประชุมทางไกลแทนการเดินทางมาประชุมร่วมที่ประเทศไทย
ทั้งนี้ หากจีนตอบตกลง กระทรวงคมนาคมจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอจัดประชุมทางไกลต่อไป เพื่อเร่งลงนามใน สัญญา 2.3 (การวางราง และระบบการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมขบวนรถ) วงเงิน 50,633 ล้านบาทต่อไป