รายงานของเอดีพี ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้บริการด้านข้อมูลจ้างงานของสหรัฐระบุว่า ภาคเอกชนในสหรัฐปรับลดอัตราการจ้างงานเดือนก.พ.ลง 23,000 ตำแหน่ง ซึ่งร่วงลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 15,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราจ้างงานภาครัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ 15,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้อัตราจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวลดลงประมาณ 8,000 ตำแหน่งในเดือนที่ผ่านมา
สำนักงานสถิติแรงงาน (BLS) จะรายงานตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.อย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักเศรษศาสตร์จากโพลล์ของทอมสัน ไอเอฟอาร์ มาร์เก็ตส์คาดว่า อัตราจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 25,000 ตำแหน่ง
"ตัวเลขจ้างงานในภาคเอกชนที่ลดลง 23,000 ตำแหน่งบ่งชี้ว่า ทุกภาคธุรกิจปรับลดอัตราการจ้างงานลง" รายงานของเอดีพีระบุ
ทั้งนี้ เอดีพีกล่าวว่า โดยทั่วไปตัวเลขจ้างงานในภาคธุรกิจขยายตัวขึ้น 47,000 ตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขจ้างงานในภาคการผลิตลดลง 70,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการปรับลดลงติดต่อกันครั้งที่ 15
โดยในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา รายงานของเอดีพีที่มีการปรับทบทวนประมาณการว่า การจ้างงานภาคเอกชนปรับตัวเพิ่มขึ้น 119,000 ตำแหน่ง แต่รายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า อัตราจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเพียง 1,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราจ้างงานภาครัฐร่วงลง 18,000 ตำแหน่ง
นักเศรษศาสตร์จากยูบีเอสที่จับตารายงานตัวเลขจ้างงานในวันนี้กล่าวว่า ข้อมูลจ้างงานของเอดีพีระบุถึงบรรยากาศในตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งกว่าตัวเลขจ้างงานของทางการสหรัฐตลอดทั้ง 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งระบุถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ 58,000 ตำแหน่งในแต่ละเดือน
"จากข้อมูลในรายงานดังกล่าวได้ทำให้เกิดคำถามถึงข้อดีของรายงานของเอดีพีที่ช่วยส่งสัญญาณบ่งชี้ก่อนที่จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานจากกระทรวงแรงงานของสหรัฐ"
ในทางตรงกันข้าม เอียน เชพเฮอร์ดสัน จาก High Frequency Economics กล่าวว่า "ตัวเลขจ้างงานของเอดีพีในแต่ละเดือนจะออกมาถูกต้องก็ต่อเมื่อเรานำตัวเลขดังกล่าวมาบวกหรือลบ 100,000 ตำแหน่ง ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจ หากตัวเลขจ้างงานของสหรัฐจะออกมาต่างจากรายงานของเอดีพี"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--