น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร เป็นสถานีใต้ดินทั้งหมดจำนวน 11 สถานี เริ่มจากสถานีบางขุนนนท์ไปจนถึงสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งมีจุดเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าเส้นทางอื่นๆ รวม 7 จุด ได้แก่ บางขุนนนท์, อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย, ยมราช, ศิริราช, ราชเทวี, ราชปรารภ และศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้จะมีการลงทุนในรูปแบบ PPP Net cost โดยภาครัฐจะลงทุนเฉพาะค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเท่านั้น ส่วนภาคเอกชนจะลงทุนด้านงานโยธาโครงการ ซึ่งภาครัฐจะทยอยจ่ายคืนให้ภายในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี นอกจากนั้นภาคเอกชนจะต้องลงทุนงานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถไฟฟ้า การบริหารการเดินรถ และการซ่อมบำรุงรักษาตลอดเส้นทาง ระยะเวลาเดินรถ 30 ปีนับตั้งแต่โครงการสายสีส้มฝั่งตะวันออกเปิดให้บริการ โดยเอกชนจะเป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บค่าโดยสาร และรับความเสี่ยงในเรื่องรายได้จากค่าโดยสาร รายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ และค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการดำเนินงาน
โดยภาครัฐจะใช้เงินลงทุน 110,673 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าจัดการกรรมสิทธิ์และค่าจ้างสำรวจอสังหาริมทรัพย์จำนวน 14,666 ล้านบาท, เงินสนับสนุนให้เอกชนที่เกิดขึ้นตามจริงในการก่อสร้างงานโยธา 96,012 ล้านบาท ขณะที่มีแหล่งเงินจากภาคเอกชนอีกจำนวน 32,116 ล้านบาท เป็นค่างานระบบรถไฟฟ้า 31,000 ล้านบาท และค่าจ้างที่ปรึกษา 1,116 ล้านบาท ซึ่งจะมีสัดส่วนการลงทุนของภาครัฐ 85% และภาคเอกชน 15% โดยมีอัตราผลตอบแทนทางด้านการเงินอยู่ที่ 0.0% ส่วนผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจอยู่ที่ 19.45%
ทั้งนี้จะมีการคัดเลือกเอกชนให้แล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.63 ส่วนการสำรวจอสังหาริมทรัพย์จะดำเนินการตั้งแต่เดือน พ.ย.62 ไปจนถึงเดือน ธ.ค.65 การก่อสร้างจะเริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย.63 ไปแล้วเสร็จในเดือน มี.ค.69 และเปิดให้บริการในปี 2569 ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันออกนั้นเปิดให้บริการในปี 2566