พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ได้การพิจารณารายละเอียดข้อเสนอซองที่ 3 (ข้อเสนอด้านราคา) ของผู้ยื่นข้อเสนอทั้ง 3 ราย และพบว่า กลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส เป็นผู้ยื่นข้อเสนอที่ให้ผลตอบแทนให้แก่ภาครัฐดีที่สุด ซึ่งต่อจากนี้คณะกรรมการคัดเลือกฯ จะมีหนังสือแจ้งผลการประเมินข้อเสนอซองที่ 3 (ข้อเสนอด้านราคา) ให้แก่ผู้ยื่นข้อเสนอทั้ง 3 รายทราบ และเชิญกลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส จัดทำรายละเอียดร่างสัญญา และรายละเอียดด้านเทคนิค ทั้งนี้ คาดว่ากระบวนการจะแล้วเสร็จในเดือน มี.ค.63
สำหรับกลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส ประกอบด้วย บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) ถือหุ้น 45% บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง (BTS) ถือหุ้น 35% และ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ถือหุ้น 20% โดยมีสนามบินนานาชาตินาริตะเป็นพันธมิตร
พลเรือเอกลือชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้เพิกถอนมติของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ในส่วนที่ปฏิเสธไม่รับข้อเสนอกล่องที่ 6 (ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ) และกล่องที่ 9 (ข้อเสนอด้านราคา) ของกลุ่มกิจการค้าร่วม บริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร และคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้กำหนดการเปิดเอกสารข้อเสนอซองที่ 3 (ข้อเสนอด้านราคา) ของกลุ่มกิจการค้าร่วม บริษัท ธนโฮลดิ้งฯ เมื่อวันที่ 17 ม.ค.63 ที่ผ่านมา โดยการดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยแล้ว
อนึ่ง การเปิดเอกสารข้อเสนอซองที่ 3 (ข้อเสนอด้านราคา) ของกลุ่มกิจการค้าร่วม บริษัท ธนโฮลดิ้งฯ เป็นเอกสารที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้จัดเก็บไว้ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.62 ซึ่งเป็นกำหนดวันยื่นซองเอกสารข้อเสนอของผู้ที่ยื่นข้อเสนอทุกราย
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันยื่นข้อเสนอดังกล่าว เอกสารข้อเสนอทั้งหมดของผู้ยื่นข้อเสนอทุกรายได้ถูกนำไปจัดเก็บไว้ที่ห้อง Navy Club ซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด มีการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดและมีสารวัตรทหารเรือประจำการตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดมา ดังนั้น ข้อเสนอกล่องที่ 6 และกล่องที่ 9 ดังกล่าวจึงไม่ได้เป็นข้อเสนอที่มีการยื่นใหม่แต่อย่างใด
คณะกรรมการคัดเลือกฯ ขอยืนยันในความมุ่งมั่นและสุจริต ที่จะดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามแผนงานโครงการที่ได้กำหนดไว้ โดยยึดในผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ เพื่อให้สนามบินนานาชาติอู่ตะเภาสามารถช่วยขับเคลื่อนและสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนของประเทศอันนำไปสู่การเจริญเติบโตของระบบเศรษฐกิจและสังคมได้ในระยะยาว