EXIM BANK ออกมาตรการพักชำระหนี้ 6 เดือน ช่วยลดภาระผู้ส่งออกสินค้าไปจีนจากผลกระทบไวรัสโคโรนา

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 4, 2020 13:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ขยายวงกว้าง ส่งผลให้รัฐบาลจีนจำเป็นต้องออกมาตรการเข้มงวด เพื่อจำกัดและยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โดยการจำกัดการเดินทางและระบบขนส่งมวลชนในหลายเมืองของจีน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออก อาทิ โลจิสติกส์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

EXIM BANK จึงออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้า ทั้งด้านสินเชื่อและด้านรับประกันการส่งออก เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอาจเกิดขึ้นในระยะ 6 เดือนข้างหน้า ประกอบด้วย

1.มาตรการสนับสนุนด้านสินเชื่อ ลูกค้าสินเชื่อทั้งระยะยาวและระยะสั้น สามารถขอพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยได้สูงสุด 6 เดือน รวมทั้งขยายระยะเวลาให้ต่ออายุตั๋วสัญญาใช้เงินเกินเทอมที่ธนาคารอนุมัติ รวมกับอายุตั๋วเดิมแล้วไม่เกิน 360 วัน กรณีลูกค้าที่มีการค้ำประกันสินเชื่อโดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) PGS ระยะที่ 5-7 สามารถขอขยายระยะเวลาผ่อนชำระเงินกู้ออกไปได้อีกสูงสุด 5 ปี โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อของ บสย. ในส่วนที่ขยายออกไป 5 ปี นับจากวันที่หมดระยะเวลาการค้ำประกันที่มีกับโครงการเดิม ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบสามารถขอรับบริการภายใต้มาตรการสนับสนุนด้านสินเชื่อได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2563

2.มาตรการสนับสนุนด้านรับประกันการส่งออก สำหรับลูกค้าประกันการส่งออกของ EXIM BANK ที่มีการส่งออกไปแล้ว หรือได้รับคำสั่งซื้อแล้วและกำลังเตรียมการส่งออก ประกอบด้วย 1) การขยายระยะเวลาการชำระเงินที่ EXIM BANK ให้ความคุ้มครองสูงสุดรวมกันไม่เกิน 270 วัน (กรณีไม่เกิน 180 วัน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) 2) การเพิ่มความคุ้มครองให้กับสินค้าที่เน่าเสียง่ายจากการที่ผู้ซื้อในจีนไม่รับมอบสินค้าเป็นกรณีพิเศษ ในอัตรา 50% ของมูลค่าใบกำกับสินค้า และ 3) การลดระยะเวลาการพิจารณาค่าสินไหมทดแทน โดย EXIM BANK จะชดเชยให้ทันที โดยไม่ต้องขายหรือทำลายสินค้าก่อน ลูกค้าและผู้ส่งออกที่สนใจขอรับบริการภายใต้มาตรการสนับสนุนด้านรับประกันการส่งออกได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 กรกฎาคม 2563

ทั้งนี้ จีนเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 2 ของไทยในปี 2562 คิดเป็นสัดส่วน 12% ของมูลค่าส่งออกรวม โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปจีนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็นแช่แข็งและแห้ง ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าว ชิ้นส่วนรถยนต์ รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตสินค้า เช่น เม็ดพลาสติก และยางพารา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ