นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.92/93 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.99/31.02 บาท/ดอลลาร์
เย็นนี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขายดอลลาร์ และมีการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างชาติ ขณะที่พรุ่งนี้ ต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งตลาดยังมองเป็น 2 ทาง คือ ทั้งในส่วนนของคงดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม และอีกส่วนมองว่ามีโอกาสที่จะปรับลดดอกเบี้ยลง
"วันนี้บาทแข็งค่าไปจากเช้าค่อนข้างมาก จากแรงขายดอลลาร์และมีการไหลเข้าของเงินทุน พรุ่งนี้คงต้องรอดูประชุม กนง. เพราะหากลดดอกเบี้ย บาทก็จะกลับไปอ่อนค่า" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.85 - 31.10 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.07/10 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.70/75 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1054/1055 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1055/1065 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,519.38 จุด เพิ่มขึ้น 23.32 จุด (+1.56%) มูลค่าการซื้อขาย 58,699 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 431.43 ลบ.(SET+MAI)
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบภาคธุรกิจท่องเที่ยว ปี 2563 ประกอบด้วย
ส่วนมาตรการภาษี เช่น การขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ออกไปอีก 3 เดือน จนถึงเดือนมิ.ย.63, มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ และการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องบิน
- สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) ปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2563 ลงเหลือโต 2.3% จากเดิม
- สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) ประเมินว่า ค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าต่อเนื่องได้ยาวถึงระดับ 32.00
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติขยายกรอบวงเงินในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 62 ในระหว่างที่ พ.ร.
- สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) ได้ปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2563 ลงเหลือโต 2.3% จากเดิม
- ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ระบุว่า สรท.ยังคงคาดการณ์การส่งออกไทยในปี 2563 จะเติบ
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ได้หารือเกี่ยวกับการกำหนดวันที่เหมาะสมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งมีข้อสรุปว่า
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ทางการจีนอาจประกาศเป้าหมายการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปีนี้
- มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่า เศรษฐกิจจีนอาจจะไม่ขยายตัวได้มากเท่ากับที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้ และคาดว่า
รัฐบาลจีนอาจจำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นมากขึ้น เพื่อรับมือกับผลกระทบของไวรัสโคโรนาที่มีต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยมูดี้ส์ระบุ
ว่า ปัจจุบัน เศรษฐกิจจีนมีการพึ่งพาการใช้จ่ายของผู้บริโภคมากขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงที่เกิดการระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน
รุนแรงหรือ SARS ในปี 2546