กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ระบุว่า ตลอดช่วงบ่ายของวันนี้การซื้อขายผันผวนอย่างมาก โดยเงินบาทอ่อนค่าลงมาที่ 31.25 บาท/ดอลลาร์ หลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาที่ 1.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์และนับเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2562 อย่างไรก็ตาม ท้ายตลาดเงินบาทพลิกแข็งค่ามาอยู่ที่ 30.99 บาท/ดอลลาร์
นับตั้งแต่ต้นปี เงินบาทได้กลับทิศปรับลดลงเกือบครึ่งหนึ่งของการแข็งค่าในปี 2562 และกลายเป็นสกุลเงินที่อ่อนค่ามากที่สุดในเอเชีย โดยอ่อนค่าลง 3.9% จากการชะลอตัวของภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นผลจากการระบาดของไวรัสโคโรนา ทั้งนี้ คณะกรรมการ กนง. กล่าวว่า แม้ว่าเงินบาทอ่อนค่าลงบ้างเมื่อเทียบกับสกุลเงินของประเทศคู่ค้า แต่ค่าเงินบาทยังไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทย และคณะกรรมการจะยังคงติดตามสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนและเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด
คณะกรรมการ กนง.แสดงความกังวลในด้านเศรษฐกิจมากขึ้น โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้และต่ำกว่าศักยภาพมากขึ้นมาก ปัจจัยหลักมาจากการระบาดของไวรัสโคโรนา ความล่าช้าของการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีและปัญหาภัยแล้ง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มต่ำกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1% ตลอดช่วงปี 2563 และ 2564 เนื่องจากผลกระทบจากราคาพลังงานและอุปสงค์ในประเทศชะลอตัว
คณะกรรมการ กนง.มีกำหนดการประชุมรอบถัดไปในวันที่ 25 มีนาคม 2563 ความเห็นของ กนง.ในวันนี้แสดงถึงมุมมองที่สนับสนุนนโยบายการเงินแบบผ่อนปรนอย่างชัดเจน กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ มองว่า การตัดสินใจลดดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับต่ำสุดครั้งใหม่นี้ถือเป็นการเปิดทางให้มีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายได้อีก ถ้าหากสถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม แม้ว่าเรายังไม่แน่ใจถึงประสิทธิผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ