นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 8 ก.พ.นี้ เป็นวันแรกที่กระทรวงพาณิชย์จะคิกออฟหรือเริ่มเปิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยให้ประชาชนในราคาประหยัด ราคาธงฟ้าชิ้นละ 2.50-5 บาท ตามคุณภาพ จำนวน 10 ล้านชิ้น โดยจะเปิดขาย ณ ลานเอนกประสงค์ ชั้น 3 กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี ตั้งแต่เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ จะจำกัดการซื้อไม่เกินคนละ 10 ชิ้น เพื่อให้ประชาชนสามารถซื้อได้อย่างทั่วถึง และจะกระจายไปยังทุกอำเภอทั่วประเทศผ่านร้านธงฟ้าที่มีอยู่ทั่วประเทศ โดยจะจำหน่ายในราคาเดียวกัน โดยในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนก.พ.นี้ จะจำหน่ายก่อน 2 ล้านชิ้น และจะทยอยส่งให้ครบตามเป้าหมาย 10 ล้านชิ้นภายในเดือนก.พ.นี้
"ผู้ใดที่พบร้านค้ากระทำความผิดขายเกินราคาที่เหมาะสม หรือปฏิเสธการขาย ให้แจ้งกรมการค้าภายในที่เบอร์ 1569 กรมการค้าภายในจะดำเนินคดี โดยโทษสูงสุด คือ จำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" นายจุรินทร์ระบุ
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงปัญหาหน้ากากอนามัยที่อยู่ในภาวะขาดแคลนว่า เตรียมหารือเดินหน้าโครงการแจกหน้ากากอนามัยฟรี 1 ล้านชิ้น แก่ประชาชนที่ขาดศักยภาพในการเข้าถึง
"จะเป็นหน้ากากอนามัยที่จัดหาโดยองค์การเภสัชกรรม ส่วนผู้ที่จะได้รับสิทธินี้ และวิธีดำเนินการนั้น ขอหารือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องก่อน" นายอนุทินระบุ
สำหรับมาตรการที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน คือ ให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ผลิตหน้ากากอนามัยส่งให้ร้านค้า และร้านขายยาในเครือข่าย เพื่อจำหน่ายในราคาชิ้นละ 1 บาท มั่นใจว่ากำลังการผลิตขององค์การเภสัชกรรมจะช่วยบรรเทาปัญหาได้ สำหรับภาพรวม จากการหารือกับผู้ประกอบการ และองค์การเภสัชกรรม ประเทศไทยมีกำลังการผลิตอัตราสูงสุด 1.4 ล้านชิ้น จำหน่ายในประเทศ 1 ล้านชิ้น ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
"ส่วนโรงพยายาล และสถานพยาบาล ทางกระทรวงสาธารณสุขถือว่าเป็นหน่วยงานที่มีความจำเป็นต้องใช้ ได้สำรองหน้ากากรอไว้แล้ว รับรองว่าไม่มีขาดแคลนแน่นอน" รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุขกล่าว