ภาวะตลาดเงินบาท: ปิดตลาด 31.08 ระหว่างวันผันผวน พรุ่งนี้จับตาศาลรธน.ตัดสินพ.ร.บ.งบปี 63 มองกรอบ 31.00-31.15

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 6, 2020 17:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 31.08 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เปิดตลาดเช้าที่ระดับ 31.03 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.01 - 31.18 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวผันผวนตามทิศทางของเงินทุน ต่างประเทศ

"วันนี้บาทมีทิศทางผันผวนตามแรง flow เนื่องจากนักลงทุนยังขาดความมั่นใจเรื่องการแก้ปัญหาแพร่ระบาดของไวรัส โคโรนา รวมถึงการออกมาตรการการเงินการคลังเพิ่มเติม และรอดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะส่งผลให้การเบิกจ่ายงบปี 63 ล่าช้าออกไปมากน้อยเพียงใด" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้จะอยู่ระหว่าง 31.00 - 31.15 บาท/ดอลลาร์

*ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 109.81 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.84 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1000 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0995 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,535.79 จุด เพิ่มขึ้น 1.65 จุด, +0.11% มูลค่าการซื้อขาย 69,363.97 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,358.16 ล้านบาท (SET+MAI)
  • สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรือ
อัตราเงินเฟ้อในเดือน ม.ค.63 อยู่ที่ 102.78 เพิ่มขึ้น 1.05% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 0.16% จากเดือน ธ.ค.62 ส่วน
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ในเดือน ม.ค.63 อยู่ที่ 102.82 เพิ่มขึ้น 0.47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่ม
ขึ้น 0.02% จากเดือน ธ.ค.62
  • บอร์ดบีโอไอที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบมาตรการพิเศษ 3 มาตรการ
เพื่อเร่งรัดการลงทุนโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ส่งเสริมการลงทุนของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็กให้เข้าถึงสิทธิประโยชน์ของบี
โอไอได้ง่ายขึ้น และอนุมัติให้การส่งเสริมแก่กิจการผลิตยางล้อสำหรับยานพาหนะจำนวน 1 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 7,915 ล้าน
บาท ตั้งโครงการในนิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง จังหวัดระยอง
  • นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กน
ง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เนื่องจากเห็นว่าขณะนี้มีสถานการณ์ที่เป็นความเสี่ยงต่อระบบ
เศรษฐกิจไทยใน 3 ประเด็นที่สำคัญ คือ 1.การระบาดของไวรัสโคโรนา 2.ความล่าช้าของ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี
งบประมาณ พ.ศ.2563 และ 3.ปัญหาภัยแล้ง พร้อมยืนยันว่าหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ธปท.ยังมี Policy space ที่พร้อมจะนำออก
มาใช้ ทั้งเรื่องของดอกเบี้ยนโยบาย และมาตรการอื่นๆ
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือน ม.ค.63 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนมา
อยู่ที่ระดับ 48.5 จากทั้งในภาคการผลิตและภาคที่มิใช่การผลิต โดยดัชนีฯ ของภาคการผลิตปรับเพิ่มขึ้นในทุกองค์ประกอบ และใน
เกือบทุก sector นำโดยกลุ่มผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มุมมองเชิงลบด้านคำสั่งซื้อและปริมาณการผลิตปรับดีขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อ
มั่นด้านผลประกอบการเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
  • กระทรวงการคลัง ออกประกาศให้มีการผ่อนคลายหลักเกณฑ์ให้ผู้ส่งออกไม่ต้องนำเงินรายได้ค่าของส่งออกสินค้ากลับ
เข้าประเทศ ด้วยการขยายวงเงินค่าของส่งออกจากปัจจุบันที่มีมูลค่าต่ำกว่า 200,000 ดอลลาร์ (สัดส่วนของมูลค่าการส่งออกที่ได้
รับประโยชน์คิดเป็น 50%) เป็น 1,000,000 ดอลลาร์ (สัดส่วนของมูลค่าการส่งออกที่ได้รับประโยชน์เพิ่มเป็น 80%)
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เผยได้หารือกับกระทรวงการคลังถึงแนวทางบริหารจัดการกรณี พ.ร.
บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 มีความล่าช้าออกไป ซึ่งอาจจะต้องเริ่มใช้จ่ายหลังจากเดือน พ.ค.63 ดังนั้นจึงเสนอให้เร่ง
ดำเนินการระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ : TFFIF) เฟส 2 ให้เร็ว
ขึ้น หรือออกพันธบัตรเพื่อใช้ลงทุนในโครงการขนาดใหญ่แทน
  • นางแมรี ดาลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก ระบุอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในปัจจุบัน
ยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม แม้มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและปัญหาอื่นๆ ก็ตาม
  • นางทาคาโกะ มาซาอิ กรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุ BOJ พร้อมดำเนิน
มาตรการที่จำเป็น หากมีสัญญาณว่านโยบายผ่อนคลายการเงินส่งผลกระทบต่อระบบธนาคารของประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ