(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.14/17 แข็งค่าหลังมีแรงขายดอลล์ทำกำไร คาดกรอบวันนี้ 31.05-31.25

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 13, 2020 11:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.14/17 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.17 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด เงินบาทย่อลงมาอยู่ที่ระดับ 31.10/14 บาท/ดอลลาร์ สวนทางกับข่าวในช่วงเช้านี้ที่คนยังกังวลต่อการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากยอดผู้เสียชีวิตยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจออกมา ค่อนข้างดี

"บาทหลังจากเปิดตลาด ก็ย่อตัวลงมาอยู่ที่ 31.10/14 สวนทางข่าวในตลาดเรื่องความกังวลไวรัสโคโรนา คาดว่า เป็นจังหวะย่อของตลาด จากแรงขายดอลลาร์เพื่อทำกำไร คนเริ่มกลับมาถือเงินเยน ทองคำ ที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย" นักบริหาร เงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.05 - 31.25 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (12 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 0.92477% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.89929%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 31.1300 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.90/96 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 109.84 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0865/0872 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0917 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.1620 บาท/ดอลลาร์
  • ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เริ่มพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วาระ 3
และ 3 ใหม่
  • 6 พรรคฝ่ายค้านย้ำไม่ร่วมสังฆกรรม พ.ร.บ.งบฯ เปิดทางรัฐบาลดำเนินการตามสะดวก แต่ขู่เลยกรอบ 105 วันในการ
พิจารณาอาจผิดกฎหมาย
  • "สมคิด" ห่วงเศรษฐกิจไตรมาส 1 ปีนี้ โตต่ำกว่า 1% เสี่ยงต่ำสุดรอบ 5 ปี หลังไวรัสโคโรนากระทบท่องเที่ยว-ส่งออก
ยังไม่ฟื้น เร่งคลังอัดฉีดกองทุนหมู่บ้าน หนุนกู้เงินลงทุนโครงการน้ำ ดัน "ชิมช้อปใช้" เฟส 4 พร้อมชงเพิ่มวันหยุดช่วงสงกรานต์หวังไทย
เที่ยวไทย
  • ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ ที่มีนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เป็นประธาน ได้สั่ง
การให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ หรือ สบน.ไปพิจารณาถึงความเหมาะสมในการก่อหนี้เพิ่มเติมเพื่อเตรียมพร้อมใช้ในโครงการลงทุน
ใหม่ของรัฐบาล รองรับการเบิกจ่าย พ.ร.บ. งบประมาณปี 63 ที่คาดว่าจะมีความล่าช้าออกไป โดยการก่อหนี้เพิ่มจะเป็นหนึ่งในแนวทางที่
รัฐบาลเตรียมนำมาใช้เพื่อลดผลกระทบจากการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า โดยเฉพาะโครงการลงทุนใหม่ที่ไม่สามารถเบิกได้หากงบประมาณ
ยังไม่ผ่านความเห็นชอบ ส่วนจะมีการก่อหนี้เป็นจำนวนเท่าใดยังไม่สามารถระบุได้
  • "กรุงศรี" จ่อรื้อเป้าหมายสินเชื่อปีนี้ หลังเผชิญปัญหาไวรัสโคโรนา จากเดิมคาดเติบโต 5-7% พร้อมสั่งคุม "เอ็นพีแอล"
ไม่เกิน 2.5% ยอมรับปีนี้เผชิญความท้าทายมากขึ้นจากปัจจัยทั้งใน-นอกประเทศ มั่นใจกรณี "แบงก์ชาติ" เตรียมรื้อค่าธรรมเนียมใหม่ ไม่
กระทบรายได้
  • นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯคาดการณ์ปริมาณส่งออกข้าวไทยปี 2563 ไว้ที่ 7.5 ล้านตัน มูลค่า
4,200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 130,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้กับปี 2562 ที่ส่งออกได้ 7.58 ล้านตัน
  • สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองเพิ่มขึ้น 1.1% ใน
สัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองปรับตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้ โดยนายพา
วเวลกล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจจะบ่งชี้ในไม่ช้าว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้กระทบเศรษฐกิจสหรัฐหรือไม่ และขณะนี้ยัง
เป็นการเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ผลกระทบดังกล่าว เนื่องจากมีความไม่แน่นอนจำนวนมาก ขณะที่จีนได้รับผลกระทบอย่างมาก แต่ประเทศคู่
ค้าอื่นๆจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) โดย
ได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) หลังจากมีรายงานว่าจำนวนผู้
ติดเชื้อรายใหม่ในจีนอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ
(เฟด) ส่งสัญญาณความพร้อมที่จะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินหากเศรษฐกิจเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในวันข้างหน้า อย่างไรก็
ดี สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนชะลอคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโร
นาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เริ่มบรรเทาลง
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนี

ราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค., ยอดค้าปลีกเดือนม.ค., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนม.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.,

สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ