ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.12/13 ระหว่างวันแกว่งแคบก่อนแข็งค่าท้ายตลาดหลังพ.ร.บ.งบประมาณฯผ่านสภา คาดกรอบพรุ่งนี้ 31.05 - 31.30

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 13, 2020 17:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.12/13 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับ ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.14/17 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยกลับมาแข็งค่าสุดในรอบวันเมื่อช่วงเย็นที่ใกล้ปิดตลาด หลังจากที่ร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 2-3 อย่างไรก็ดี คาดว่าพรุ่งนี้เงินบาทยังเคลื่อนไหว ในกรอบแคบเช่นเดียวกับวันนี้ เนื่องจากรอปัจจัยใหม่เข้ามา

"วันนี้ทั้งวันเงินบาทอยู่ในกรอบแคบๆ เป็นเพราะยังไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ ยังคงเป็นเรื่องไวรัสโคโรนาเหมือนเดิม พรุ่งนี้บาทก็ คงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบเช่นกัน" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.05 - 31.30 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.69/70 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.90/96 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0881/0882 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0865/0872 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,532.77 จุด ลดลง 7.07 จุด (-0.46%) มูลค่าการซื้อขาย 46,420 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,316.67 ลบ.(SET+MAI)
  • สภาผู้แทนราษฎร ลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ในวาระที่ 2 และ 3
ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้มีการลงมติอีกครั้ง หลังจากเกิดปัญหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เสียบบัตรแทนกันในการพิจารณาครั้ง
ก่อน
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (14 ก.พ.) กระทรวงการคลังจะหารือร่วมกักระทรวง
ท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อหามาตรการดูแลเฉพาะหน้าจากปัญหาไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-
19) ที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ซึ่งไม่ใช่กระทบแค่ผู้ประกอบการ แต่รวมไปถึงประชาชนที่มีอาชีพเกี่ยวกับการท่องเที่ยวด้วย รวมถึง
ต้องกระตุ้นโครงการไทยเที่ยวไทยมาช่วยหนุน เพื่อให้เกิดการจ้างงานและมีรายได้หล่อเลี้ยงในชุมชน
  • ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ปรับประมาณการเงินบาท ณ สิ้นปี 2563 มาอยู่ที่ระดับ 30.00-30.50 บาท/ดอลลาร์ โดย
คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนมี.ค.63 โดยปัจจัยเสี่ยงต่อประมาณการค่าเงินบาท
ได้แก่ ความเสี่ยงสงครามการค้า, ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ, ความเสี่ยงที่ไทยจะถูกเข้ากลุ่มเฝ้าระวังเป็นผู้แทรกแซงค่า
เงิน และการถอนเงินฝากในบัญชีเงินตราต่างประเทศ (FCD) ในช่วงที่เงินบาทอ่อนค่า
  • ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ประเมินว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2563 จะมีภาวะที่ค่อนข้างทรงตัวต่อเนื่องจากปี
2562 แต่มีโอกาสที่จะขยายตัวได้สูงถึง 5-7% หากเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศมีการขยายตัวดีขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานและความ
มั่นใจของผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในการตัดสินใจที่จะซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้รับผลกระทบอย่าง
หนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แม้ว่าในขณะนี้จะยังมีความไม่แน่นอนในหลาย ๆ ด้านก็ตาม โดย
IMF กำลังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล เพื่อประเมินผลกระทบอย่างเต็มรูปแบบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว
  • คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงวันนี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ราย
ใหม่ เฉพาะในมณฑลหูเป่ยที่เดียวเพิ่มขึ้นถึง 14,840 ราย สู่ระดับ 48,206 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่มีการรายงานข้อมูล
ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตในมณฑลหูเป่ยเพิ่มขึ้น 242 ราย แตะที่ระดับ 1,310 ราย โดยสาเหตุที่ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในมณฑลหูเป่ยพุ่ง
สูงขึ้น เนื่องจากได้มีการปรับเปลี่ยนเกณฑ์การวินิจฉัยให้นับรวมผู้ติดเชื้อที่ได้รับการวินิจฉัยทางคลินิก (Clinically diagnosed cases)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ