นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 31.14/17 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.17 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทปรับอ่อนค่าลงไปในช่วงสายที่ระดับ 31.21 บาท/ดอลลาร์ ภายหลังจากที่สภาพัฒน์ประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 4/62 ขยายตัวได้เพียง 1.6% ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ต่ำสุดในรอบ 21 ไตรมาส รวมถึงปรับลดคาการณ์ GDP ปี 63 ลงเหลือ 1.5-2.5% ประกอบกับตลาดยังมีความกังวลกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ซึ่งทำให้คาดว่าแนวโน้มเงินบาทยัง เป็นทิศทางที่อ่อนค่าต่อ
"เงินบาทอ่อนค่าไปที่ระดับ 31.21 บาท/ดอลลาร์ หลังจากสภาพัฒน์ประกาศจีดีพี ไตรมาส 4/62 ที่เติบโตได้แค่ 1.6% ตลาดมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10 - 31.25 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.83/89 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 109.82 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0840/0846 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0837 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,527.25 จุด เพิ่มขึ้น 0.95 จุด (+0.06%) มูลค่าการซื้อขาย 52,494 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,107.76 ลบ.(SET+MAI)
- สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ได้ประกาศอัตราการขยายตัวผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP)
ส่วนในปี 63 คาดว่า GDP จะขยายตัว 1.5-2.5% ต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ 2.7-3.7% โดยมีปัจจัยหลัก คือ การระบาดของ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ปัญหาภัยแล้ง และความล่าช้าของงบประมาณฯ ปี 63
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 2562 ที่ 2.4%
- โฆษกกระทรวงการคลัง เผย กระทรวงการคลังจะติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด และมีความพร้อมที่จะ
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่จะอยู่ในช่วง 31.00-
- ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตรวจสอบและวิเคราะห์ความเสี่ยงสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส เปิดเผยว่า อังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) คาดว่า จะต้องห้ำหั่นกัน
- ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า ธนาคารกลางอาจพิจารณาใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม หาก
- มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศ
ขณะเดียวกัน มูดี้ส์ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2563 ของจีนลงสู่ระดับ 5.2% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 5.8% โดยมูดี้ส์ระบุว่า จนถึงขณะนี้ จีนถือเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มที่จะสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกในช่วงครึ่งแรก ของปีนี้ และส่งผลให้ซัพพลายเชนหยุดชะงักในระยะสั้น
- รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มประเทศ G20 จะประชุมร่วมกันที่กรุงริยาดห์ ประเทศซาอุดีอาระเบียในวัน
ที่ 22-23 ก.พ.นี้ เพื่อหารือเรื่องความเสี่ยงที่มีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-
19 ทำให้การค้าขายและห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก