นายจักษ์ พันธ์ชูเพชร ที่ปรึกษา รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน มีความห่วงใยลูกจ้างกรณีบริษัท เจนเนอรัลมอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (จีเอ็ม) ที่จะยุติการจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตในประเทศไทยภายในสิ้นปี 63 โดยเกรทวอล มอเตอร์ส จะซื้อศูนย์การผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์ของจีเอ็มประเทศไทยในจังหวัดระยอง ม.ร.ว.จัตุมงคล จึงมอบหมายให้กรมการจัดหางาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือลูกจ้างให้ได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครองตามกฎหมาย
จากการตรวจสอบของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดระยอง พบว่า บริษัท เจนเนอรัลมอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มีลูกจ้างประมาณ 1,100 คน และบริษัท เจนเนอรัลมอเตอร์ส เพาเวอร์เทรน (ประเทศไทย) จำกัด มีลูกจ้างประมาณ 400 คน รวมทั้ง 2 บริษัทมีลูกจ้างประมาณ 1,500 คน
บริษัททั้ง 2 ได้เลิกจ้างลูกจ้างทั้งหมดประมาณ 1,500 คน (ปัจจุบันไม่มีลูกจ้างรับเหมาค่าแรง) โดยมีแผนกำหนดการเลิกจ้างในเบื้องต้น จะเลิกจ้างลูกจ้างในส่วนของการผลิตชิ้นส่วน ปลายเดือน มิ.ย.63 เลิกจ้างลูกจ้างในส่วนของเครื่องยนต์ปลายเดือน ต.ค.63 และเลิกจ้างลูกจ้างในส่วนของงานสนันสนุนในปลายปี 63
นายจักษ์ กล่าวว่า จากผลการหารือกับผู้แทนบริษัทกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงาน ทั้งสองฝ่ายจะบูรณาการการทำงานตามภารกิจ โดยบริษัทจะจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน นอกจากนี้ จะจ่ายเงินเพิ่มให้ลูกจ้างเป็นเวลาอีก 4 เดือน
ขณะที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจะให้การดูแลคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ขึ้นทะเบียนว่างงาน การให้บริการจัดหางาน การพัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ ในส่วนของตำแหน่งงานได้ประสานให้จัดหางานจังหวัดและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่อีอีซี ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา รวมทั้งลงพื้นที่ไปช่วยเหลือดูแลลูกจ้างของทั้งสองบริษัทที่มีจำนวนกว่า 1,500 คน
เบื้องต้นได้เตรียมตำแหน่งงานว่างทั่วประเทศที่เกี่ยวกับยานยนต์ไว้แล้วจำนวน 15,132 อัตรา ส่วนใหญ่เป็นแรงงานด้านการผลิต ช่างซ่อมเครื่องจักรกลและยานยนต์อื่นๆ ช่างซ่อมยานยนต์ ช่างเทคนิควิศวกรรม และวิศวกรด้านยานยนต์ เป็นต้น ส่วนตำแหน่งงานว่าง 3 จังหวัดเขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) แยกเป็น จังหวัดฉะเชิงเทรา 660 คน ชลบุรี 643 คน และระยอง 1,233 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 2,536 คน ทั้งนี้ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบให้ได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครองตามกฎหมายต่อไป