น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมกับกระทรวงพาณิชย์ ถึงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบต่อการส่งออกสินค้าไทย โดยจนถึงขณะนี้สินค้าประเภทผัก-ผลไม้, ยางพาราและผลิตภัณฑ์, เครื่องคอมพิวเตอร์, รถยนต์และส่วนประกอบ, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกุ้ง ยังไม่สามารถเข้าสู่จีนได้ แม้รัฐบาลจีนได้เปิดเริ่มให้โรงงานอุตสาหกรรมเปิดการผลิตตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.63 ซึ่งมีเพียงบางโรงงานเท่านั้นที่พนักงานบางส่วนกลับมาทำงานได้เต็มที่ เพราะรัฐบาลจีนกำหนดให้ทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัย หากไม่ใส่ถือว่าผิดกฎหมายและมีโทษรุนแรง
อย่างไรก็ดี หน้ากากอนามัยในจีนขณะนี้มีปัญหาขาดแคลนอย่างหนัก โรงงานใดที่ไม่สามารถจัดหาหน้ากากอนามัยให้พนักงานได้ ก็ยังไม่สามารถเปิดการผลิตได้ โดยคาดว่าในแต่ละอุตสาหกรรมอาจจะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูกิจการและกลับมาผลิตได้เต็มกำลังในอีก 6 เดือนหรืออาจมากกว่านั้น นอกจากนี้ ในส่วนการนำเข้าวัตถุดิบจากจีนในบางอุตสาหกรรม ต้องหยุดชะงักไปหมด ทำให้ไม่มีวัตถุดิบสำหรับการผลิตและส่งออกไปยังตลาดอื่นทดแทน
"ผลกระทบจากการที่ส่งออกไม่ได้ ทำให้ผู้ประกอบการขาดสภาพคล่องทางการเงิน ไม่มีรายได้เข้ามา ซึ่ง สรท.คาดว่าจะทำให้การส่งออกของไทยไปจีนในไตรมาสแรก หดตัวประมาณ -1% หรือคิดเป็นมูลค่า 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ" น.ส.กัณญภัคระบุ
อย่างไรก็ตาม สรท.มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล คือ ด้านมาตรการช่วยเหลือทางการเงิน เช่น ขอการสนับสนุนพักการชำระหนี้ ดอกเบี้ย หรือค่าธรรมเนียมจากธนาคารเป็นระยะเวลา 12 เดือน, ขอระยะเวลาการชำระคืนสินเชื่อเพื่อการส่งออกเป็นเวลา 12 เดือน เป็นต้น ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ขอจัดให้มี Call Center เพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อสอบถาม และรายงานสถานการณ์ปัจจุบัน เพิ่มการเร่งรัดและความถี่ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสในการหาตลาดทดแทนอื่น