ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 มี.ค.) สกุลเงินดอลลาร์สหัฐฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศอัดฉีดสภาพตล่องเข้าสู่ระบบการธนาคาร
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.5335 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.5365 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่สกุลเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 2.0173 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 2.0092 ดอลลาร์/ปอนด์
ดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 0.7947 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7964 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 0.9276 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9255 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ทั้งนี้ ดอลลาร์นิวซีแลนด์ได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นที่ร่วงลง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของนิวซีแลนด์ที่จะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ตามลำดับ
ในระหว่างวันนั้น ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนก.พ. ลดลง 63,000 อัตรา ซึ่งร่วงลงหนักที่สุดในรอบ 5 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 25,000 ตำแหน่ง โดยตัวเลขจ้างงานที่ลดลงในช่วงเวลาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญภาวะถดถอยเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นหลังจากเฟดประกาศใช้มาตรการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคาร ซึ่งครอบคลุมถึงการซื้อคืนพันธบัตรในวงเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์เพื่อผ่อนคลายแรงกดดันด้านสภาพคล่องในตลาดการเงิน
ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหัฐที่ร่วงลงเกินความคาดหมายในเดือนก.พ.ได้สร้างความตื่นตระหนกในตลาดหุ้นนิวยอร์ก และฉุดดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 146.70 จุด หรือ 1.22% แตะระดับ 11,893.69 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--