นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บิลท์ แลนด์ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42 กล่าวว่า ท่ามกลางปัจจัยมากมายที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงต้นปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หรือจะการระบาดของไวรัส โคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ไปจนถึงสภาพเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว มีโครงการใหม่เปิดตัวน้อยลง แต่ในมุมกลับกัน ช่วงต้นปีนี้กลับเป็นโอกาสอันดีของผู้บริโภคที่ต้องการและมีความพร้อมในการซื้อบ้าน
โดยหากพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันจะพบว่ามีปัจจัยที่เอื้อต่อการตัดสินใจซื้อบ้านของผู้บริโภคในช่วงเวลานี้ ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมาก อีกทั้งผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเน้นขายสินค้าที่อยู่อาศัยระหว่างการก่อสร้างและระบายโครงการที่สร้างเสร็จรอการขาย จึงออกโปรโมชั่นส่งเสริมการขายมากมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดผู้ซื้อและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อโดยเร็ว ถึงแม้ปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง แต่สถาบันการเงินก็ผ่อนปรนความเข้มงวดในการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น
รวมถึงมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐ ทั้งการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนและเหลือจำนองอย่างละ 0.01% สำหรับบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท และการออกโครงการบ้านดีมีดาวน์ที่ช่วยลดภาระการซื้อบ้านด้วยการสนับสนุนเงินดาวน์ 50,000 บาท สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 1.2 ล้านบาทต่อปี จำนวน 100,000 สิทธิ์ ทั้งยังให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ออกสินเชื่อพิเศษ เพื่อสนับสนุนและลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ที่สำคัญที่สุดปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง ซึ่งถือเป็นนาทีทองสำหรับผู้ที่ต้องการยื่นกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัย
อีกทั้งยังมีปัจจัยที่ผู้บริโภคต้องคำนึงถึงคือมาตรการต่างๆ เช่น EIA ซึ่งมีผลต่อการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยจะได้รับการอนุมัติยากขึ้น เพราะต้องคำนึงถึงปัจจัยด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของชุมชน ทำให้การเกิดโครงการใหม่ในทำเลใหม่ๆ ไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่ผ่านมา อีกทั้งราคาที่ดินจะมีแต่สูงขึ้นทุกวัน ดังนั้นหากผู้บริโภคมีกำลังซื้อและมีความพร้อมเพียงพอควรรีบตัดสินใจซื้อบ้านในเวลานี้ ไม่ควรนำเงินไปซื้อหรือผ่อนสินค้าอุปโภคประเภทอื่น เพราะอย่างไรก็ตาม บ้านก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ และเป็นการลงทุนที่มีแต่จะให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
ทั้งนี้งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42 จะจัดขึ้นระหว่าง 19 – 22 มี.ค. 63 ภายใต้คอนเซ็ปต์ "รัฐให้ท่าน เราให้เพิ่ม"ซึ่งเป็นงานที่รวมโอกาสทองทั้งหมดของต้นปี 63 มาไว้ให้ผู้บริโภค ซึ่งคณะกรรมการจัดงานเชื่อมั่นว่าจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคใน การมาเลือกชมเลือกซื้อสินค้าที่อยู่อาศัยมากกว่า 100,000 คน เพราะภายในงานมีทั้งโปรโมชั่นพิเศษ นอกเหนือจากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ
"มองว่าช่วงเวลานี้เป็นโอกาสของผู้ซื้อที่จะได้ซื้อบ้านและคอนโดในราคาที่ถูก เพราะผู้ประกอบการต่างนำโครงการมาจัดโปรโมชั่นในราคาพิเศษ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนมีความพร้อมในการกู้เป็นโอกาสที่จะซื้อที่อยู่อาศัยในราคาที่ไม่แพง อัตราดอกเบี้ยถูก และมีมาตรการรัฐเข้ามาเสริม โดยเฉพาะโครงการที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งเรามองว่าตลาดยังมีดีมานด์ที่ต้องการซื้อบ้านอยู่ แต่ยังไม่มีความมั่นใจในการซื้อ เพราะปัจจัยไม่แน่นอนทั้งเศรษฐกิจที่กระทบจากปัจจัยภายนอก และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่มองว่าหากไวรัสเริ่มคลี่คลายแล้ว ตลาดอาจจะกลับมาฟื้นตัว
อย่างไรก็ตามอยากให้ภาครัฐมองในเรื่องการสร้างงาน ผ่านการเร่งกระบวนขอใบอนุญาตต่างๆให้เร็ว สำหรับธุรกิจอสังหาฯ เพราะเป็นปัจจัยที่สามารถสร้างงานให้กับประชาชนได้เพิ่มขึ้นแบบห่วงโซ่ ทำให้คนมีรายได้มากขึ้น และอยากให้สลัดความคลุมเคลือของการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ให้มีความชัดเจนหรือเลื่อนการพิจารณาจัดเก็บออกไปก่อน เพื่อทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการมีความั่นใจมากขึ้น"นายชัยรัตน์ กล่าว