สมาคมค้าทองคำ รายงานว่า ราคาทอง (ทองคำ 96.5%) ประจำวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 ประกาศครั้งแรกเมื่อเวลา 09.20 น. ปรับตัวลดลงจากเมื่อวานนี้บาทละ 200 ตามสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก โดยราคาทองแท่ง รับซื้อเข้าบาทละ 24,450.00 ขายออกบาทละ 24,550.00 ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาทละ 24,013.44 ขายออกบาทละ 25,050.00
เมื่อคืนนี้ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แต่ขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนเริ่มเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงอย่างหนัก โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย.ขยับลง 60 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 1,642.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัว แม้ระหว่างวันราคาจะขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,660.37 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากประเด็นหลัก 2 ประเด็น ได้แก่ 1. จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 นอกประเทศจีนเพิ่มขึ้นรวดเร็วกว่าภายในจีน ซึ่งยิ่งกระตุ้นความวิตกที่ว่าการระบาดของไวรัสจะกระทบทั้งห่วงโซ่อุปทาน, ผลประกอบการบริษัทและการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกมากยิ่งขึ้น สถานการณ์ดังกล่าวกดดันสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหนัก จนทำให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 1,000 จุด หรือ -4.42% ดัชนี S&P500 ปิด -4.42% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิด -4.61% ขณะที่ทั้ง 3 ดัชนีเข้าสู่โหมดของการปรับฐานอย่างเป็นทางการ
2.การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ท่ามกลางการคาดการณ์มากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วสุดในเดือนหน้า สะท้อนจาก FedWatch Tool เช้านี้ที่บ่งชี้ว่าเทรดเดอร์คาดมีโอกาสกว่า 90% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17-18 มี.ค. และมีโอกาสลดดอกเบี้ยครั้งที่ 2 และ 3 ของปีนี้ในเดือนมิ.ย. และก.ย. ตามลำดับ
แม้ประเด็นที่กล่าวมา จะหนุนทองคำให้ทะยานขึ้นราว 20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างวัน แต่ราคาทองคำกลับไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ ได้เนื่องจากเผชิญกับแรงขายทำกำไรนั่นเอง ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง -1.47 ตัน
สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE), การใช้จ่ายและรายได้ส่วนบุคคล, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก