จีนเผยดัชนี PPI เดือนก.พ.ขยายตัว 6.6%, คาด CPI พุ่งสูงสุดในรอบ 11 ปี

          สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นตัววัดอัตราเงินเฟ้อ มีการขยายตัวกว่า 6.6% ในเดือนก.พ.เมื่อเทียบเป็นรายปี นับเป็นอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 3 ปี
          ดัชนี PPI ซึ่งเป็นตัวชี้วัดราคาสินค้าที่ผลิตจากโรงงาน ได้รับการเปิดเผยท่ามกลางกระแสการคาดการณ์ที่ว่า อัตราเงินเฟ้อจีนจะทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี อีกครั้ง หลังทะยานกว่า 7.1% เมื่อเดือนม.ค. ส่งผลให้เกิดความวิตกว่ารัฐบาลอาจประกาศใช้มาตรการควบคุมทางการเงินที่เข้มงวดกว่าเดิม
           ราคาน้ำมันดิบพุ่ง 37.5% ในเดือนก.พ.เมื่อเทียบเป็นรายปี เทียบกับ 29.9% ในเดือนม.ค. และ 22.6% ในเดือนพ.ย. ในขณะที่ราคาต้นทุนวัตถุดิบ เชื้อเพลิง และพลังงาน ทะยาน 9.7%
          ซู เหลียงจง เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมาธิการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยหลักที่หนุนให้ดัชนีพีพีไอปรับเพิ่ม นอกจากนั้นเหตุพายุหิมะครั้งใหญ่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งเช่นกัน  
          "หากราคาน้ำมันโลกยังสูงขึ้นเรื่อยๆ ดัชนีพีพีไอจีนก็ไม่สามารถลดลงได้ในเวลาอันสั้น" ซู กวงเจียน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเหรินหมิน กล่าว 
          สำนักงานสถิติมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นตัววัดอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญที่สุด ในวันอังคารนี้ 
          ดัชนีซีพีไอทะยานกว่า 7.1% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 11 ปี โดยได้รับแรงหนุนจากราคาอาหารที่สูงขึ้น รวมถึงการขาดแคลนเนื้อหมูและสินค้าอื่นๆ 
          ธนาคารแบงค์ ออฟ ไชน่า คาดการณ์ว่าดัชนีซีพีไอจะทะยานแตะ 8.3% ในเดือนก.พ. ในขณะที่ราคาอาหารจะเพิ่มขึ้น 6-7% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และ 22-23% เมื่อเทียบเป็นรายปี
          เซียะ ฟูจาน ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติ กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อในเดือนก.พ.จะสูงขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากพายุหิมะครั้งใหญ่ได้ทำลายพืชผลเสียหาย ทำให้ไฟฟ้าใช้การไม่ได้ นอกจากนั้นยังตัดขาดเส้นทางไปยังภาคตะวันออกและภาคใต้ของจีนด้วย
          นายเซียะกล่าวเพิ่มเติมว่า จนถึงตอนนี้รัฐบาลจีนยังไม่ได้พูดคุยกันว่าจะมีการเพิ่มดอกเบี้ยอีกหรือไม่ในอนาคตอันใกล้ อย่างไรก็ตามนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
          ธนาคารแบงค์ ออฟ ไชน่า รายงานว่า จีนมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยอีก 1-2 ครั้ง ในช่วงครึ่งแรกของปี
          ปัจจุบัน จีนกำลังอยู่ระหว่างการต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น โดยธนาคารกลางจีนได้ใช้มาตรการต่างๆเพื่อแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเพดานปริมาณเกินสำรองของธนาคาร หรือการขึ้นดอกเบี้ยตั้งแต่ปีที่แล้ว 
          นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า กล่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลจะพยายามควบคุมให้อัตราเงินเฟ้อปีนี้อยู่ที่ระดับเดียวกับเมื่อปีที่แล้วที่ 4.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดรับตั้งแต่ปี 2540 สำนักข่าวซินหัวรายงาน