นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.53/54 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.40/42 บาท/ดอลลาร์ โดยนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโค วิด-19
"บาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ แต่ยังคงจับตาดูสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.40 - 31.60บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (2 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.61962% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.70324%
- เงินเยนอยู่ที่ 108.00/10 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 107.76/80 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1130/1135 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1083/1085 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.3610 บาท/ดอลลาร์
- คลังเตรียมงัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสู้ไวรัส ด้านพาณิชย์จัดคาราวานนำหน้ากากอนามัยออกจำหน่ายทั่วประเทศ
ธนารักษ์ยันเหรียญกษาปณ์ไม่ติดไวรัส ธพว.กระตุ้นลูกค้าเข้ารับมาตรการแก้สภาพคล่อง
- รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ชงครม.กระตุ้นท่องเที่ยวหลัง 2 เดือนแรกสาหัสจากพิษไวรัส ต่างชาติมาไทยลดลงแบบ
ฮวบฮาบ ด้านททท.-กบข.-ทิพยประกันภัย จับมือกระตุ้นการท่องเที่ยว-เล็งเจาะกลุ่มขรก. ลดหั่นแหลกและได้ประกันภัยเดินทางฟรีด้วย
- "นอนแบงก์" เผยยอด ใช้จ่ายผ่านบัตร 2 เดือนแรกปีนี้ "ชะลอตัว" ทุกหมวด เหตุผู้บริโภคระวังการใช้จ่าย แถม วงเงิน
ผ่อนขั้นต่ำลดลงเพื่อตุนสภาพคล่องดันเอ็นพีแอลเร่งตัวขึ้น หลายแห่งเร่งออกมาตรการช่วยลูกค้า
- ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กก
ร.)ที่ ประกอบด้วย สอท., สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทยที่ตน ทำหน้าที่ประธานการประชุมในวันที่ 4 มีนาคมนี้จะ
หยิบยกประเด็นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 มาหารือ เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในปี
2563 ค่อนข้างมากจำเป็นจะต้องมีมาตรการรองรับปัญหา
- องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกใน
ปีนี้ สู่ระดับ 2.4% จากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนพ.ย.ปีที่แล้วที่ระดับ 2.9% โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-
19 ซึ่งฉุดภาคการผลิต และการท่องเที่ยว
- คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงวันนี้ว่า ณ วันจันทร์ที่ 2 มี.ค. มีผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิด
จากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในจีน เพิ่มขึ้นอีก 31 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตทั่วประเทศจีน เพิ่มเป็น
2,943 ราย
- รองประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เพิ่มความไม่แน่นอนให้กับแนว
โน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และ ECB พร้อมที่จะออกมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว ขณะที่นัก
วิเคราะห์คาดว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.10% ในการประชุมวันที่ 10 เม.ย.
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก ออกแถลงการณ์ร่วมกัน ระบุว่า IMF และธนาคารโลกเตรียม
พร้อมที่จะช่วยเหลือประเทศสมาชิกในการเยียวยาผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างพุ่งขึ้น 1.8% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจาก
เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. ขณะที่ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐร่วงลงสู่
ระดับ 50.1 ในเดือนก.พ. จากระดับ 50.9 ในเดือนม.ค.
- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.)
หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนนี้ เพื่อลดผลกระทบ
จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอก
ภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) ขานรับความหวังที่ว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะออกมาตรการเพื่อ
ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังช่วยให้สัญญา
ทองคำมีความน่าดึงดูดมากขึ้นด้วย
- ตลาดทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า ธนาคารกลางทั่วโลกจะออกมาตรการเพื่อรับมือกับผลกระทบของ
ไวรัสโควิด-19 โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้คำมั่นว่า เฟดจะใช้เครื่องมือและมาตรการที่เหมาะสม
เพื่อหนุนเศรษฐกิจ ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยการแสดงความเห็นของ
นายพาวเวลทำให้นักลงทุนคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17-18 มี.ค.นี้
- ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการ
ฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนก.พ.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ
(ISM), รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย
สัปดาห์, ผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 4/2562, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนม.ค., ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.
พ., ยอดนำเข้า,ส่งออก และดุลการค้าเดือนม.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนม.ค.
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--