น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้รายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้รับทราบถึงความคืบหน้ากรณีที่สหรัฐจะตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) กับสินค้าจากประเทศไทย โดยสหรัฐยังคงยืนยันว่าจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.63 ซึ่งการตัดสิทธิ GSP ดังกล่าวจะกระทบกับการส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐ 573 รายการ ทำให้ผู้ส่งออกไทยต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 4-5% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,500-1,800 ล้านบาท
สำหรับการตัดสิทธิ GSP สินค้าไทยในครั้งนี้ สหรัฐให้เหตุผลว่าประเทศไทยไม่สามารถคุ้มครองสิทธิแรงงานตามมาตรฐานสากลได้ โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าว ถึงแม้ไทยจะชี้แจงว่ากำลังอยู่ระหว่างการยกร่าง พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจของสหรัฐ
นอกจากนี้ สหรัฐยังต้องการให้ไทยเปิดตลาดเนื้อสุกร ซึ่งไทยไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเนื้อสุกรจากสหรัฐมีการใช้สารเร่งเนื้อแดง ซึ่งเป็นสารต้องห้ามตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาหารสัตว์ และไทยยังมีประกาศกระทรวงสาธารณสุขอย่างชัดเจนที่ไม่อนุญาตให้อาหารที่มีการปนเปื้อนของสารเร่งเนื้อแดงเข้ามาในประเทศ
น.ส.รัชดา กล่าวว่า ในระหว่างนี้ก่อนที่จะถึงวันที่ 25 เม.ย.63 กระทรวงพาณิชย์ยังเปิดรับฟังความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง เพื่อหารือกับผู้ประกอบการในทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการตัดสิทธิ GSP ในครั้งนี้ โดยจะมีการหาแนวทางในการช่วยเหลือและรับมือกับมาตรการที่สหรัฐฯ จะนำออกมาบังคับใช้หลังจากมีการตัดสิทธิ GSP เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการให้ได้มากที่สุด