กรมเชื้อเพลิงฯ ยันไม่พบน้ำมันดิบรั่วไหลจากกระบวนการผลิตของแหล่งปิโตรเลียมในอ่าวไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 5, 2020 14:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีก้อนน้ำมัน (Tar ball) เกิดขึ้นบริเวณชายหาดหัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 23 ก.พ.63 ที่ผ่านมานั้น กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ได้ตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัทผู้รับสัมปทานทุกรายที่มีการดำเนินงานในอ่าวไทยทันที โดยตรวจสอบย้อนหลังไป 90 วัน พบว่าไม่มีการรั่วไหลของน้ำมันดิบจากกระบวนการผลิตและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้มีความชัดเจนและสร้างความเชื่อมั่นแก่ทุกภาคส่วน กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้ประสานพลังงานจังหวัดนครศรีธรรมราช ในการลงพื้นที่เก็บตัวอย่างก้อนน้ำมัน เพื่อส่งไปวิเคราะห์ยังห้องปฏิบัติการตรวจพิสูจน์คุณสมบัติเปรียบเทียบกับน้ำมันดิบในอ่าวไทยควบคู่กันไปด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการวิเคราะห์ผล คาดว่าจะทราบผลในอีกประมาณ 1-2 เดือน

"สำหรับปรากฏการณ์ก้อนน้ำมัน จะเกิดขึ้นแทบทุกปีในช่วงหน้ามรสุม ประมาณเดือนพ.ย. ถึงก.พ. ซึ่งที่ผ่านมา เมื่อเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้เก็บตัวอย่างก้อนน้ำมันไปวิเคราะห์ ซึ่งเป็นการดำเนินงานภายใต้ขอบเขตอำนาจหน้าที่ของภารกิจในการกำกับดูแลการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทยเท่านั้น โดยจะวิเคราะห์คุณสมบัติก้อนน้ำมันที่เกิดตามชายฝั่งแล้วนำมาเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลน้ำมันดิบที่ผลิตได้จากแท่นผลิตในอ่าวไทย โดยผลจากการตรวจวิเคราะห์ที่ผ่านมา ยังไม่เคยพบว่าตัวอย่างก้อนน้ำมันที่เกิดขึ้นเป็นชนิดเดียวกันกับตัวอย่างน้ำมันดิบจากแหล่งผลิตในอ่าวไทย

นอกจากนี้ ในการประกอบกิจการปิโตรเลียม มีการกำกับดูแลและกำชับให้ผู้ประกอบการปิโตรเลียมทุกราย ต้องดำเนินการตามมาตรการการป้องกันปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในทุกพื้นที่อย่างเข้มงวด และเป็นไปตามมาตรฐานสากลและตามมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ.2514 เพื่อให้การดำเนินกิจการปิโตรเลียม สามารถอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนได้อย่างยั่งยืน

อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า เพื่อเป็นการบูรณาการการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมบริเวณชายฝั่งอย่างมีประสิทธิภาพ และการหาที่มาของก้อนน้ำมันที่เกิดขึ้นในแต่ละปีให้มีความชัดเจน เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา ได้มีการลงนาม MOU เรื่อง การพัฒนาฐานข้อมูลลายนิ้วมือน้ำมันดิบ และผลิตภัณฑ์น้ำมันที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย ร่วมกันของ 10 หน่วยงาน ได้แก่

1.กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ 2.กรมควบคุมมลพิษ 3.กรมเจ้าท่า 4.กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 5.กรมศุลกากร 6.ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ในส่วนกองทัพเรือ 7.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดย วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี 8.บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) 9.สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) 10.สมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน เพื่อจัดทำฐานข้อมูลลายนิ้วมือน้ำมันดิบ และเพื่อบ่งชี้แหล่งที่มาของก้อนน้ำมันดังกล่าว

โดยในขั้นตอนการบริหารจัดการ หากมีก้อนน้ำมันเกิดขึ้นตามชายหาด หน่วยงานท้องถิ่นจะเป็นผู้เก็บตัวอย่างและส่งให้กรมควบคุมมลพิษ เพื่อส่งต่อให้วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) เป็นผู้วิเคราะห์หาที่มาของก้อนน้ำมันดังกล่าวให้มีความชัดเจนของแหล่งที่มาต่อไป โดยในการเกิดเหตุการณ์ก้อนน้ำมันในพื้นที่บริเวณหาดหัวไทรครั้งนี้ ก็ได้ดำเนินการในขั้นตอนดังกล่าวเช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ