นางสาวกิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการวิจัยและคำปรึกษาระหว่างประเทศ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/63 มีโอกาสติดลบ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาคการท่องเที่ยวไทยที่คาดว่าหดตัวถึง 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าทั้งปีอาจจะหดตัว 8-10% ซึ่งปัจจุบันรายได้จากการท่องเที่ยวไทยคิดเป็นสัดส่วน 12% ของผลผลืตมวลรวมในประเทศ (GDP)
นอกจากนั้น ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้คาดว่าภาคส่งออกของไทยในปีนี้จะติดลบ 1-2% ซึ่งปัจจุบันรายได้จากภาคส่งออกคิดเป็นสัดส่วน 65% ของ GDP ประเทศ
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/63 นั้น TDRI อยู่ระหว่างติดตามว่าจะพลิกเป็นบวกได้หรือไม่ แต่คาดหวังว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่จะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในภาคส่วนต่างๆ และประเมินว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 น่าจะผ่อนคลายลง
นอกจากนี้ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ คาดว่าจะเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างน้อย 0.25% เพื่อช่วยประคับประคองเศรษฐกิจไทย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยฉุกเฉินลงไป 0.50% จากระดับ 1.50-1.75% สู่ระดับ 1.00-1.25% เพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
"ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกเหนื่อยแน่นอน GDP ไตรมาสแรกมีโอกาสสูงมากที่จะติดลบ แต่ไตรมาส 2 ต้องมาดูกันอีกทีว่าจะฟื้นได้หรือไม่ ซึ่งตอนนี้ทุกฝ่ายคาดหวังว่าเห็นเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะเป็นปกติอีกครั้งในไตรมาสสุดท้ายของปี แต่วันนี้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกกำลังเติบโตช้า แนวโน้มดอกเบี้ยทรงตัวระดับต่ำต่อไปอีกซักระยะหนึ่ง ดังนั้นอาจต้องระมัดระวัง Search for Yield นักลงทุนโยกเงินเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นภายใต้ยุคดอกเบี้ยต่ำเช่นนี้"นางสาวกิริฎา กล่าว