นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้รับทราบแผนบริหารจัดการน้ำใน EEC โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาของ EEC รองรับการบริหารจัดการน้ำในระยะยาว และแผนระยะสั้น เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2563
สำหรับแผนระยะสั้น เร่งทำงานใกล้ชิด ป้องกันภัยแล้ง จากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดของ สทนช., สกพอ., กรมชลประทาน, คณะกรรมการลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) , บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) และภาคเอกชน ทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ มีโครงการเพิ่มปริมาณน้ำในพื้นที่ EEC
โดยมีมาตรการเร่งด่วน คือ 1.โครงการสูบน้ำกลับคลองสะพานมายังอ่างเก็บน้ำประแสร์ คาดว่าจะมีปริมาณน้ำ 1.5 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดย EASTW ประสานกับกรมชลประทาน เร่งดำเนินการ 2.โครงการผันน้ำคลองหลวงมายังอ่างเก็บน้ำบางพระ คาดว่าจะมีปริมาณน้ำ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยกรมชลประทานเร่งดำเนินการ และ 3.โครงการผันน้ำจากลุ่มน้ำวังโตนด จ.จันทบุรี มายังอ่างเก็บน้ำประแสร์ คาดว่าจะมีปริมาณน้ำ 10-35 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งกรมชลประทาน และคณะกรรมการลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำวังโตนดได้ลงนาม MOU ไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ.63 สามารถเริ่มผันน้ำ 4.3 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังมีมาตรการเสริมเพื่อให้มั่นใจว่าจะมีน้ำเพียงพอโดยเฉพาะ คือ 1.ขอให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดทำแผนลดใช้น้ำ 10% ช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย.63 2.โครงการเจรจาซื้อน้ำจากบ่อดินเอกชน เข้าระบบจังหวัดชลบุรี และฉะเชิงเทรา คาดว่าจะมีปริมาณน้ำ 16 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ประสานกับ EASTW เร่งดำเนินการ 3.โครงการสูบน้ำจากองเก็บน้ำคลองใหญ่ มายังหนองปลาไหล สามารถผันน้ำ 1 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยกรมชลประทานดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 28 ก.พ.63 4.โครงการวางท่อคลองน้ำแดง เพิ่มการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ มาอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ คาดว่าจะมีปริมาณน้ำ 1.3 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดย EASTW ประสานกับกรมชลประทาน เร่งดำเนินการ
ส่วนแผนระยะยาวนั้น สทนช.ได้จัดทำแผนบริหารจัดการน้ำของปี 2563-2580 ภายใต้โครงการพัฒนาแหล่งน้ำและการจัดการทรัพยากรน้ำรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (2563-2580) ประกอบด้วย 1.พัฒนาและจัดการน้ำตันทุน 53 โครงการ วงเงิน 52,797 ล้านบาท ได้แก่ แผนการพัฒนาแหล่งน้ำตันทุน (Supply Side Management) 38 โครงการ วงเงิน 50,691.10 ล้านบาท เช่น สร้างอ่างเก็บน้ำ คลองวังโตนดองเก็บน้ำ คลองโพล้ และพัฒนาระบบสูบกลับคลองสะพาน-อ่างเก็บน้ำประแสร์ เป็นต้น, แผนการบริหารจัดการด้านความต้องการใช้น้ำ (Demand Side Management) 12 โครงการ วงเงิน 1,927.15 ล้านบาท เช่น แผนการบริหารจัดการลดน้ำสูญเสีย การประปาส่วนภูมิภาคสาขาต่างๆ ปรับระบบการเพาะปลูก เป็นต้น, มาตรการอื่นๆ การศึกษาจัดทำฐานข้อมูลพัฒนาน้ำบาดาล 3 โครงการ วงเงิน 178.99 ล้านบาท และ 2.การผลิตน้ำจืดจากทะเล (Desalination) เตรียมพิจารณาการลงทุนในอนาคตกับภาคเอกชน
เลขาธิการ สกพอ.กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาโครงการ EEC ขณะเดียวกันกลับเป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย ที่แสดงให้นานาชาติได้เห็นว่าประเทศไทยมีระบบสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าหลายประเทศ สามารถดูแลวิกฤตการณ์ครั้งนี้ได้ดีพอสมควร