นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) อนุมัติ 4 มาตรการเร่งด่วน ช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนเพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว โดยคาดว่าจะช่วยสร้างเงินหมุนเวียนในระบบได้ราว 4.5 หมื่นล้านบาท
สำหรับทั้ง 4 มาตรการ ประกอบด้วย 1. การคืนเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้าที่มีอยู่ 21.5 ล้านครัวเรือน ให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย และกิจการขนาดเล็ก คิดเป็นวงเงินในระบบรวมประมาณ 3 หมื่นล้านบาท โดยมีเงินประกันตั้งแต่ระดับ 300-6,000 บาท/มิเตอร์ โดยจะดำเนินการทยอยคืนตั้งแต่รอบบิลสิ้นเดือน มี.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้มีเงินหมุนเวียนกลับเข้าสู่ระบบราว 3 หมื่นล้านบาท
2.การตรึงค่าไฟฟ้าในอัตราราว 3.50 บาท/หน่วย เป็นเวลา 3 เดือนระหว่างเดือนเม.ย.-มิ.ย. จากปัจจุบันที่ค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 3.64 บาท/หน่วย ซึ่งจะมาจากการตรึงค่าไฟฟ้าอัตราโนมัติ (เอฟที) ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในระดับปัจจุบันที่อยู่ -11.60 สตางค์/หน่วย ออกไปอีก 2 เดือนจากที่จะสิ้นสุดในเดือนเม.ย.นี้ และการช่วยเหลือของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย 2 แห่ง คือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) อีกราว 11.60 สตางค์/หน่วย รวมเป็นวงเงินช่วยเหลือจากทั้ง 2 ฝ่ายราว 1 หมื่นล้านบาท
3.การขยายระยะเวลาการชำระค่าไฟฟ้าเป็นเวลา 2 รอบบิล ในเดือน เม.ย.-พ.ค.สามารถขยายระยะเวลาชำระค่าไฟฟ้าได้ 6 เดือน สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่อยู่อาศัย ,กิจการขนาดเล็ก และกลุ่มโรงแรม ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กระทบต่อภาคการท่องเที่ยว
4.กระทรวงพลังงานจะนำเงินเบื้องต้นจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ในวงเงินราว 4 พันล้านบาท และจะมีการบูรณาการร่วมกันระหว่างกระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจจะมีวงเงินเพิ่มเติมเข้ามาอีก เพื่อนำเงินดังกล่าวมากระตุ้นการใช้จ่ายด้วยการเร่งสร้างงานต่าง ๆ เช่น การขุดบ่อบาดาล รอกคลอง ตลอดจนเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง โดยจะเร่งการจัดซื้อจัดจ้างและปรับโครงการให้สอดรับกับนโยบาย ซึ่งจะเป็นการช่วยอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายอื่น ๆ นั้น กระทรวงพลังงานจะหารือกันในช่วงต่อไป โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับลดลงแรงในช่วงนี้ก็นับว่าจะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมัน (กบน.) ในเร็ว ๆ นี้เพื่อใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาบริหารจัดการให้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อไป