ดอลล่าร์อ่อนค่าเทียบยูโร หลังนลท.คาดเฟดลดดอกเบี้ยอีก

          สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบเงินยูโรในการซื้อขายช่วงบ่ายวันนี้ (11 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจลดดอกเบี้ยอีกเพื่อกระตุ้นสภาพเศรษฐกิจ
          "เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มถดถอยในช่วงกลางปี แต่คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงปลายปี" โทโมโกะ ฟูจิอิ หัวหน้านักยุทธศาสตร์เศรษฐกิจจากแบงค์ ออฟ อเมริกา กล่าว "เราคาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอีกหลังสิ้นสุดเดือนนี้"
          แบงค์ ออฟ อเมริกา คาดการณ์ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยลงเหลือ 1.5% ภายในเดือนมิ.ย. จากระดับ 3.0% ในปัจจุบัน ส่วนความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยก่อนการประชุมในสัปดาห์หน้ามีค่อนข้างน้อย
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ณ เวลา 13.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (12.00 น.ตามเวลาประเทศไทย) เงินยูโรซื้อขายอยู่ที่ระดับ 1.5366 ดอลลาร์ต่อยูโร เพิ่มขึ้นจาก 1.5344 ดอลลาร์ต่อยูโรในการซื้อขายช่วงเช้าที่ตลาดโตเกียว ส่วนเงินดอลลาร์อยู่ที่ระดับ 101.77 เยนต่อดอลลาร์ จาก 101.58 เยนต่อดอลลาร์
          นางฟูจิอิกล่าวว่า เงินดอลลาร์อาจร่วงแตะ 1.57 ดอลลาร์ต่อยูโร และเงินเยนอาจทะยานแตะ 100 เยนต่อดอลลาร์ในอนาคต
          เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เงินยูโรทะยานแตะ 1.5464 ดอลลาร์ต่อยูโร ซึ่งนับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่มีการเริ่มซื้อขายเงินยูโรในเดือนม.ค.2542 ในขณะที่เงินเยนทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี ที่ 101.40 เยนต่อดอลลาร์
          ฌอง-คล็อด ทริเชต์ ผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรป กล่าวกับผู้สื่อข่าวในสวิตเซอร์แลนด์ว่า ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น
          "ถ้อยแถลงของทริเชต์อาจไม่สามารถสกัดขาขึ้นของเงินยูโรได้ แต่อย่างน้อยก็สามารถช่วยชะลอไม่ให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเร็วมากนัก" เรียวเฮ มุรามัตสึ จากคอมเมิร์ซแบงค์ กล่าว
           ราคาน้ำมันที่พุ่งเหนือระดับ 108 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล, ภาวะซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดการเงิน, ตัวเลขการยึดบ้านหลุดจำนองพุ่งสูง, การใช้จ่ายผู้บริโภคที่ลดลง และอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น ทั้งหมดส่งผลให้นักลงทุนรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเกรงว่าอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว  
          หากเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย เศรษฐกิจโลกก็อาจถดถอยตาม เนื่องจากสหรัฐเป็นประเทศที่ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และสินค้าอื่นจากเอเชียและยุโรปมากที่สุด          
          อย่างไรก็ตาม โธมัส ลัม นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารยูโอบี กล่าวว่า "ข้อมูลบางส่วนบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว แต่เมื่อพิจารณาจากข้อมูลโดยรวม เศรษฐกิจสหรัฐแค่หยุดขยายตัวเท่านั้น ผมว่าตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยจริงหรือไม่"
          กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐลดลง 63,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งลดลงมากที่สุดในรอบ 5 ปี โดยก่อนหน้านี้ก็มีการเปิดเผยตัวเลขการยึดบ้านหลุดจำนองที่ทะยานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว