ทำเนียบขาวของสหรัฐเปิดเผยว่า นายดิ๊ก เชนีย์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐจะเรียกร้องให้ซาอุดิ อาระเบีย ซึ่งเป็นสมาชิกรายใหญ่ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ผลักดันกลุ่มโอเปคให้เพิ่มผลผลิตเพื่อบรรเทาปัญหาราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
โอเปคซึ่งผลิตน้ำมันในสัดส่วน 40% ของผลผลิตน้ำมันทั่วโลก ตัดสินใจตรึงเพดานการผลิตน้ำมันไว้ที่ระดับเดิมในที่ประชุมที่กรุงเวียนนาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยอ้างว่าปัจจุบันตลาดมีปริมาณน้ำมันดิบเพียงพอกับความต้องการ
ทั้งนี้ โอเปคไม่สนใจคำร้องขอของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ที่กล่าวว่า การที่โอเปคตรึงเพดานการผลิตถือเป็นการกระทำที่ผิดพลาดอย่างแรง
"ผมคิดว่าการที่โอเปคมีส่วนทำให้เศรษฐกิจของประเทศลูกค้ารายใหญ่สุดอย่างสหรัฐชะลอตัวลงนั้น ถือเป็นการกระทำที่ผิดพลาด ซึ่งเศรษฐกิจที่ย่ำแย่เช่นนี้เกิดขึ้นจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ผมอยากให้โอเปคเข้าใจถึงผลพวงที่ตามมาของราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น" บุชกล่าวต่อกษัตริย์จอร์แดนก่อนประชุมโอเปคครั้งที่ผ่านมา
นอกจากนี้ โอเปคอ้างว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเป็นผลมาจากแรงซื้อเก็งกำไร และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง มากกว่าปัญหาอุปทานน้ำมันที่มีอยู่อย่างจำกัด โดยราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้น 2.75 ดอลลาร์ แตะระดับ 107.90 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เหนือระดับ 108 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--