(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.53 อ่อนค่าจากวานนี้ นลท.หันซื้อถือครองสกุลเงินปลอดภัยหลัง WHO ประกาศโควิด-19 เป็นโรคระบาดทั่วโลก

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 12, 2020 11:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.53 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิด ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.45 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนหันมาถือครองสกุลเงินที่ปลอดภัยแทนสินทรัพย์เสี่ยง เพราะมีความกังวลต่อ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) หลังองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศว่าไวรัสโควิด- 19) เข้าสู่ภาวะแพร่ระบาดไปทั่วโลกแล้ว ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ประกาศระงับการเดินทางจาก ทุกประเทศในยุโรปยกเว้นอังกฤษ

"บาทอ่อนค่าเนื่องจากนักลงทุนหันมาถือครองสกุลเงินที่มีความปลอดภัยหลังวิตกต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด- 19" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 31.45 - 31.60 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (11 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.62762% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.68484%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 31.5875 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 103.45 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้อยู่ที่ระดับ 105.00 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1328 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้อยู่ที่ระดับ 1.1310 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.4910 บาท/ดอลลาร์
  • นายกฯถกด่วน "ศูนย์โควิด-19" หวังสกัดไวรัสลาม สั่งเลิก "ฟรีวีซ่า" 3 ประเทศ พร้อม "วีโอเอ" อีก 18 ประเทศชั่ว
คราวจนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย มอบ "กต.-ทูต" แจงมิตรประเทศ ยอมรับกระทบเศรษฐกิจ ยันปิดประเทศไม่ได้ ด้านเอกชนท่องเที่ยว
ออกโรงหนุน ย้ำต้องใช้ยาแรงคุมการแพร่ระบาด หวังจบปัญหาใน 2 เดือน
  • บอร์ดพัฒนาตลาดทุนไทย อนุมัติจัดตั้ง "กระดานที่ 3" เปิดทางธุรกิจสตาร์ทอัประดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดเริ่มเทรด
ภายในไตรมาส 1/64 พร้อมเตรียมจัดโครงการ "บอนด์ละบาท" เพื่อให้ประชาชน ลงทุนพันธบัตรได้มากขึ้น "อุตตม" เผยเริ่มซื้อขาย
หน่วยลงทุน "SSF" 1 เม.ย.นี้
  • รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เร่งจัดทำเว็บไซต์ขึ้นใหม่เพื่อชี้แจง ทำความ
เข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำมาตรการดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั้งทางตรงและทางอ้อม ชุดที่ 1 ให้ประชาชน
รับทราบโดยเร็ว เนื่องจากมาตรการชุดนี้เกี่ยวข้องกับผู้ได้รับผลกระทบหลายระดับ ตั้งแต่ผู้ประกอบการจนถึงชาวบ้าน และมีรายละเอียด
การดำเนินการหลายรูปแบบจึงต้องสื่อสารกับประชาชนให้เกิดความเข้าใจ และมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • สศค.แจ้งคนเป็นหนี้บัตรเครดิตให้ไปปรับโครงสร้างหนี้กับออมสิน จะได้ผ่อนน้อยดอกถูก ไม่ต้องเสียค่าปรับ เผยมาตรการ
เศรษฐกิจสู้โควิด-19 ชุดแรกช่วยพยุงเศรษฐกิจได้ถึงเดือน เม.ย. รีบให้หน่วยงานเสนอโครงการ ขอใช้เงินกองทุน 2 หมื่นล้าน ผู้
ประกอบการรายใดยังไม่พอ ให้เสนอแนวทางเพิ่มเติมเข้ามาได้กรมสรรพากรเก็บรายได้ปีงบ 63 หลุดเป้า 1.65 แสนล้านบาท
  • ธนาคารกรุงไทย (KTB) ประกาศหยุดการให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่สาขา และปิดสำนักงานแลกเปลี่ยน
เงินตราต่างประเทศ (FX Booth) ทั่วประเทศ จำนวน 53 แห่ง ตั้งแต่เวลา 14.00 น.ของวันที่ 11 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่า
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยลูกค้ายังคงสามารถใช้บริการแลกเปลี่ยน
เงินตราต่างประเทศด้วยบัตรกรุงไทยทราเวลการ์ด ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ได้ตามปกติ
  • องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์ระบุว่า ไวรัสโควิด-19 ได้เข้าสู่ภาวะแพร่ระบาดไปทั่วโลก หลังมีการลุกลาม
ไปยังหลายประเทศในภูมิภาคต่างๆ
  • เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) หลัง
จากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศลดดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.50% เมื่อวานนี้ ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินบางสกุล หลังจาก
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคง
เดินหน้าเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงรอความชัดเจนเกี่ยวกับ
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ออกแถลงการณ์ทั่วประเทศในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย โดยกล่าวว่า รัฐบาล
สหรัฐกำลังประสานงานกับประเทศพันธมิตร และเตรียมใช้มาตรการที่ครอบคลุมเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์,
ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
  • นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 17-18 มี.ค.นี้ ขณะที่ FedWatch
Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้ม 55.7% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมครั้งนี้
จากระดับ 1.00-1.25% สู่ระดับ 0.00-0.25% และมีแนวโน้ม 44.3% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 0.25-0.50%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ