นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.94/98 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.62 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทเช้านี้อ่อนค่าลงจากที่ปิดตลาดเมื่อเย็นวาน โดยตลาดยังคงกังวลกับสถานการณ์การแพร่ระบาดไปทั่วโลกของไวรัสโค โรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ตลอดจนกรณีที่สหรัฐฯ ประกาศระงับการเดินทางจากประเทศยุโรปทั้งหมดยกเว้นอังกฤษเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสครั้งรุนแรง วันนี้เงินบาทยังมีแนวโน้มจะอ่อนค่าได้ต่อ และมีโอกาสไปทดสอบระดับ 32.00 บาท/ดอลลาร์
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.85 - 32.10 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (12 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.62507% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.75757%
SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 32.0750 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.95 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 103.85 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1180 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดั้บ 1.1237 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.5670 บาท/ดอลลาร์
- กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.ใช้เงินลงทุน 500 ล้านบาท ออก
- "เพื่อไทย" เตรียมยื่นญัตติเปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญ ถกวิกฤตโควิด-19 ภัยแล้ง เศรษฐกิจปากท้อง การชุมนุมทางการ
- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ แม้ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า ECB จะปรับ
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ดิ่งลง 0.6% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการ
- จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 211,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่า
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบธนาคาร พร้อมกับเพิ่มประเภทของ
- สื่อต่างประเทศรายงานว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเปิดเผยในวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐว่า สภาผู้แทนราษฎร
- สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่น และเจ้าหน้าที่จากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะจัดการประชุม
- สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.)
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) เนื่องจากการทรุดตัวของตลาดหุ้นส่งผลให้นักลงทุน
- ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่น
- นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 17-18 มี.ค.นี้ ขณะที่ FedWatch
Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้ม 55.7% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมครั้งนี้
จากระดับ 1.00-1.25% สู่ระดับ 0.00-0.25% และมีแนวโน้ม 44.3% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 0.25-0.50%