ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้าวันนี้ (12 มี.ค.) หลังจากที่ดีดตัวแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา รับข่าวธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศร่วมมือกับธนาคารกลางประเทศอื่นๆเพื่ออัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคารเป็นวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยเฟดประกาศว่าจะร่วมมือกับธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางแคนาดา และธนาคารกลางสวิสในการปล่อยวงเงินกู้แก่ธนาคารพาณิชย์ เพื่อช่วยผ่อนคลายวิกฤตในตลาดสินเชื่อ ภายใต้โครงการ Term Securities Lending Facility (TSLF) ซึ่งจะให้สถาบันการเงินกู้ตราสารหนี้ได้นาน 28 วัน แทนการกู้แบบข้ามคืนซึ่งใช้อยู่ในปัจจุบัน
จากความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ เมื่อคืนนี้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะที่ 103.52 เยนต่อดอลลาร์ และ 1.53325 ยูโรต่อดอลลาร์
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 07.52 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 103.03 เยนต่อดอลลาร์ เมื่อเทียบกับระดับ 103.37-103.47 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ 1.5353 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.5332-1.5342 ดอลลาร์ต่อยูโร
จอห์น นูนาน นักวิเคราะห์จากธอมสัน/ไอเอฟอาร์ มาร์เก็ตส์กล่าวว่า "ความเคลื่อนไหวของเฟดได้สร้างปฎิกิริยาต่อตลาดในทันทีและทำให้นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง และไปซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงกันอย่างหนาแน่น"
ขณะที่เอียน เชพเพอร์ดซัน นักวิเคราะห์จาก High Frequency Economics กล่าวว่า "มาตรการที่มีขึ้นนี้จะยังไม่ช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้นหรือสามารถแก้ปัญหาในตลาดได้ทั้งหมด แต่อาจจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากปัญหาสภาพคล่องได้ในขณะนี้"
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ส่งออกของญี่ปุ่นเทขายสกุลเงินดอลลาร์ในช่วงเช้านี้ เพราะไม่มั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวว่าจะสามารถแก้ปัญหาในตลาดอย่างได้ผล
ส่วนเงินยูโรพุ่งขึ้น โดยนายอเซล เวเบอร์ ประธานธนาคาร Bundesbank กล่าวว่า "เงินสกุลยูโรยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง พร้อมกับกล่าวว่า เศรษฐกิจเยอรมนียังคงอยู่ในช่วงขาขึ้นแม้ว่าจะเผชิญแรงกดดันด้านเงินเฟ้อก็ตาม"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--